<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

JPMorgan ธนาคารเก่าแก่ของสหรัฐฯ คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของ FTX

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

JPMorgan ธนาคารเพื่อการลงทุนระดับโลก ได้สรุปการคาดการณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม Crypto และกฎระเบียบที่จะตามมาหลังจากการล่มสลายของ FTX ทั้งยังมองเห็นความคิดริเริ่มด้านกฎระเบียบใหม่หลายประการ  รวมไปถึงการมุ่งไปที่การดูแลสินทรัพย์ การปกป้องสินทรัพย์ของผู้ใช้บริการ และความโปร่งใส

JPMorgan ได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สรุปการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรม Crypto หลังจากการล่มสลายของ FTX ตามการคาดการณ์ของทางธนาคาร

Nikolaos Panigirtzoglou นักกลยุทธ์ข้ามชาติ ได้อธิบายว่า การล่มสลายของ FTX และบริษัทน้องอย่าง Alameda Research จะทำให้เกิดการล่มสลายของบริษัท Crypto อื่น ๆ และการยุติการให้บริการถอนเงินเท่านั้น มันยังส่งผลให้นักลงทุนและกฎระเบียบต่าง ๆ เพิ่มแรงกดดันแก่บริษัท Crypto ให้เปิดเผยข้อมูลงบดุลของบริษัทมากขึ้น

Nikolaos Panigirtzoglou ได้ระบุความเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่ JPMorgan คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นหลังการล่มสลายของ FTX โดยได้เขียนว่า “กฎระเบียบที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจะถูกผลักดันต่อไป”

เขายังคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมาย European Union’s Markets in Crypto Assets (MiCA) จะได้ผ่านร่างกฎหมายก่อนสิ้นปี และกฎหมายนี้จะถูกใช้บางส่วนในปี 2024

สำหรับสหรัฐฯ เขาอธิบายว่า ความคิดริเริ่มด้านกฎระเบียบมีความน่าสนใจมากขึ้นหลังจากการล่มสลายของ Terra เสริมว่า พวกเราคาดเดาว่า การออกกฎระเบียบจะมีความเร่งด่วนมากขึ้นหลังจากการล่มสลายของ FTX

“การโต้แย้งสำคัญระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลทางกฎหมายของสหรัฐฯ คือการระบุว่า Crypto เป็นสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์”

Gary Gensler ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ (SEC) ได้กล่าวว่า Bitcoin เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ในขณะที่โทเค็น Crypto ส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายหลายฉบับได้ถูกเสนอแก่สภาคองเกรสเพื่อสร้างกฎหมาย Commodity Futures Trading Commission (CFTC) กฎระเบียบขึ้นต้นสำหรับสินทรัพย์ Crypto

JPMorgan ยังได้มองว่า การริเริ่มกฎระเบียบใหม่ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่การดูแลสินทรัพย์และการปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้บริการอย่างที่เกิดขึ้นในระบบการเงินแบบดั้งเดิม

นักลงทุน Crypto รายย่อยหลายรายได้เริ่มย้าย Crypto ของตัวเองไปยังกระเป๋าเงินส่วนตัวเพื่อดูแลสินทรัพย์ด้วยตัวเอง Nikolaos Panigirtzoglou อธิบายว่า “ผู้ได้รับประโยชน์จากการล่มสลายของ FTX คือ ผู้ดูแล Crypto ของสถาบัน โดยเหล่าผู้ดูแลสินทรัพย์เหล่านี้ มีแนวโน้มว่าจะมีอำนาจเหนือผู้ดูแลสินทรัพย์ Crypto หรือแม้แต่กระดานเทรด Crypto”

“การริเริ่มกฎระเบียบใหม่ดูเหมือนจะมุ่งไปที่การเป็นโบรคเกอร์ เทรด กู้ยืม จัดการ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสินทรัพย์เช่นเดียวกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม” รายงานของ JPMorgan เสริม โดยกล่าวว่า “การจัดกลุ่มนี้มีความหมายเป็นอย่างมากสำหรับกระดานเทรดอย่าง FTX การรวมกันกิจกรรมเหล่านี้ ก่อให้เกิดปัญหาต่อการปกป้องทรัพย์สินของลูกค้า การจัดการตลาด และผลประโยชน์ทับซ้อนต่าง ๆ”

ยิ่งไปกว่านั้น กฎระเบียบใหม่ยังมุ่งไปที่ความโปร่งใส โดยการกำหนดให้มีการรายงานและตรวจสอบเงินสำรอง สินทรัพย์ และหนี้สินของบริษัท Crypto ต่าง ๆ

ความเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกอย่างคือ ตลาดอนุพันธ์ Crypto มีแนวโน้วว่าจะเปลี่ยนไปใช้แนวทางแบบตลาด CME ในฐานะที่เป็นผู้ชนะ”

Nikolaos Panigirtzoglou ยังได้กล่าวถึงกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) โดยกล่าวว่า กระดานเทรดเหล่านี้ผ่านอุปสรรคมากมายจนกระทั่ง DeFi กลายมาเป็นกระแสหลัก “สำหรับสถาบันใหญ่ DEX นั้นไม่เพียงพอต่อออเดอร์ขนาดใหญ่ของพวกเขา จากความเร็วในการทำธุรกรรมที่ช้า หรือกลยุทธ์การเทรดและขนาดของออเดอร์สามารถถูกตรวจจับได้บนระบบบล็อกเชน”


ที่มา: Bitcoin.com