เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักข่าว Axios ได้สอบถามสถานะการเงินในปัจจุบันของ Sam Bankman-Fried อดีต CEO ของบริษัท FTX ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีเงินในบัญชีถึง 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาได้ตอบว่า “ผมสามารถพูดถึงตัวเลขที่ติดลบได้ไหม?”
“ผมหมายถึง ผมไม่รู้เลย” SBF กล่าว “ผมไม่รู้ ผมเหลือเงินในบัญชี 100,000 ดอลลาร์จากครั้งล่าสุดที่ผมเข้าไปเช็คดู”
เขากล่าวว่า การประเมินความมั่งคั่งของเขานั้นค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากทรัพย์สินของเขาทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกับการเงินของบริษัท ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านก่อนจะเกิดการล่มสลาย
นับตั้งแต่การยื่นฟ้องล้มละลายของ FTX เมื่อต้นเดือน บริษัทของเขาก็ได้ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินจากการถอนตัวของผู้ใช้บริการ ก่อนนำไปสู่การล่มสลายภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง และเกิดข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงที่อื้อฉาวตามมาภายในบริษัท
“ผมหวังว่าผมจะมีความระมัดระวังมากกว่านี้” Sam Bankman-Fried กล่าวกับ Axios “ผมเสียใจกับสิ่งนี้มากจริง ๆ ผมเอาแต่โฟกัสอยู่กับวอลลุ่มมากกว่าโพซิชันของยอดคงเหลือ ผมควรจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้”
เขากล่าวว่า เขาคิดว่ากฎระเบียบจะช่วยป้องกัน FTX จากการล่มสลาย
“ผมหวังว่าจะมีใครซักคนที่ไม่ใช่ผมที่เข้ามาดูแลเรื่องความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า “ผมหวังว่าผมจะมีการรายงานและมีความโปร่งใสต่อภายนอกมากขึ้น”
การล่มสลายของ FTX ในครั้งนี้ ได้เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของ Sam Bankman-Fried จากวีรบุรุษแห่งวงการ Crypto และ Warren Buffett คนต่อไป กลายมาเป็นเครื่องเตือนใจว่าคนคนหนึ่งสามารถสูญเสียความมั่งคั่งไปกว่าพันล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาอันสั้นได้ ตามที่สำนักข่าว Reuters เคยรายงานไว้เมื่อก่อนหน้านี้
ที่มา: Fortune