<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เป็นห่วง ! สรีระร่างกายของ “Vitalik Buterin” พร้อมเตือนระวังคอหัก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เมื่อหน่วยงาน OSHA ของกระทรวงแรงงานในสหรัฐอเมริกาได้ถือว่า Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum มีสรีระร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าที่มีความเสี่ยงสูงต่อชีวิต ซึ่งไม่เพียงแต่สำหรับตัวนาย Buterin เท่านั้น แต่หน่วยงานยังได้เตือนไปถึงชุมชน crypto โดยรวมด้วย

“ลองคิดดู” โฆษกของ OSHA, Cliff Meidl กล่าวว่า “ไม่น่าเชื่อที่คอของ Mr. Buterin เหมือนพร้อมจะหักได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าเกิดว่าคอหักของเขาเกิดหักขึ้นมาจริง ๆ จะเท่ากับว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ Ethereum ก็อาจสูญเสียเงินทุนจำนวนมากจากการที่เขาขาดการมีส่วนร่วมเพิ่มเติมในโครงการ”

“ผมเข้าใจถึงความกังวลนี้ดี ผมสัมผัสมันได้  ผมเข้าใจแล้ว และผมก็กำลังพยายามเปลี่ยนวิธีกินของผมอยู่” Buterin กล่าว “ตอนนี้ ผมกำลังควบคุมอาหาร Pediasure และเพิ่มโปรตีนบาร์ โดยหวังว่ามันจะช่วยให้ผมมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และสามารถทำให้กล้ามเนื้อคอของผมแข็งแรงมากขึ้นด้วย นอกจากนั้นผมยังติดตามโปรแกรม ‘Neck Building 101’ ของ Mark McGwire ตำนานเบสบอลเพื่อพยายามให้ได้เนื้อคอชั้นดีเกรด A 100% ของ USDA ผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้คอชั้นดีนั้นมา”

ชุมชน Ethereum ได้คาดเดาอย่างติดตลกว่าขนาดศีรษะของ Buterin อาจมีสาเหตุหลักมาจากที่ขนาดสมองที่มีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความจริงของเรื่องนี้ซับซ้อนกว่านั้นมาก Buterin บอกกับเราในบทสัมภาษณ์พิเศษ

“ผมเกิดมาพร้อมกับ 2 สมองจริงๆ แม่ของผมตั้งท้องลูกแฝด และช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ผมก็ดูดกินทารกในครรภ์อีกตัว” Buterin กล่าว “มันฟังดูบ้า แต่ก็นะ ผมชอบคิดว่าสมองรองของผมเป็น ‘Sidechain’ และสมองหลักของผมเป็น Chain หลัก ซึ่งสมองส่วนหลักสามารถจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้ เช่น การใช้งาน EIP ใหม่ ในขณะที่สมองส่วนที่สองของผมสามารถจดจำและทำสิ่งต่าง ๆ ได้พร้อมกัน เช่น ใส่เสื้อยืด LOL Cats/ยูนิคอร์น ที่จะใส่ในการประชุมเทคโนโลยีระดับสูงระดับนานาชาติครั้งต่อไปที่ผมเข้าร่วม ”

“แม้ว่าเราจะเข้าใจดีว่าเราไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้ใครเลิกทำอะไร แต่เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณ Buterin ระมัดระวังในบางสถานการณ์ เช่น หากเขาอยู่บนสะพาน หรือในลิฟต์ น้ำหนักกระโหลกศีรษะของ Buterin นี้อาจทำอะไรบางอย่างได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายที่สุด” หน่วยงานของ OSHA กล่าวระบุ

ที่มา : thehodltimes