David Schwartz CTO ของ Ripple ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงนักลงทุนรายหนึ่งที่เรียกได้ว่าภักดีต่อ Sam Bankman-Fried อย่างยิ่งและยังได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ FTX ทำพลาด
CTO ของ Ripple พูดถึงการล่มสลายของ FTX
David ได้ออกมาพูดถึง 3 สิ่งที่ FTX ผิดพลาด “อย่างมหันต์”
- ทรัพย์สินที่เป็นเงิน fiat ของลูกค้า FTX ถูกทิ้งไว้ในบัญชี Alameda และ Alameda เป็นคนเอาไปใช้งาน
- เงินฝากของลูกค้า FTX ที่ควรจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ถูกใช้งานนั้นไปอยู่ปะปนกับสินทรัพย์ที่ใช้ในทางที่สุ่มเสี่ยง
- Alameda ควรจะดำเนินตามกลยุทธ์เพื่อจัดการกับความเสี่ยงในวิธีที่คล้าย ๆ การทำ delta neutral อย่างไรก็ตามสถานะการเงินไม่ได้ถูกติดตาม, ความเสี่ยงไม่ได้อยู่ภายใต้การจัดการและกลยุทธ์ก็ไม่ได้เป็นไปในแบบ delta neutral
แม้ทาง David เองยังไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดการคอรัปชั่นกันภายใน FTX เขาเสริมว่าต่ “การจงใจปิดหูปิดตา” ของตัวผู้นำของทาง FTX ก็เป็นอะไรที่ผิดพลาดมหันต์พอ ๆ กัน
David มองว่า “เป็นความโชคร้าย” ที่ตลาดหมียืดเยื้อเช่นนี้จะส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ที่พัวพันอยู่กับคริปโตต้องปิดตัวลงแต่สิ่งนี้ไม่ใช่ในกรณีเดียวกันกับทาง FTX และ Alameda ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ FTX
ปริศนาที่เกิดขึ้นในตัวของ Shark Tank ที่เชื่อใจใน SBF
แต่มีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มีความเชื่อแบบเดียวกันว่า Sam Bankman-Fried เป็นคนก่ออาชญากรรมนี้ขึ้นหนึ่งในนั้นคือ Shark Tank และนักลงทุนชิ่อดัง Kevin O’Leary ผู้ซึ่งสารภาพว่าสูญเงินไปกว่า 15 ล้านดอลลาร์ที่ FTX จ่ายให้เขาเพื่อเป็นโฆษกอย่างเป็นทางการ
ในช่วงเวลาที่ชุมชนคริปโตหันมาโจมตี Sam ความคิดความเห็นของ Kevin ได้แสดงออกมาเหมือนเป็นการเปลี่ยนที่ให้ทัวร์ลง เขาระบุว่า Sam ควรได้รับการปฏิบัติเสหมือนผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าเขามีความผิด
ในการให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่เกิดขึ้น Kevin ยืนกรานว่าเขาจะลงทุนไปกับ Sam อีกครั้งหากเขาจะกลับมาพร้อมกับการลงทุนครั้งใหม่
ซึ่งตัวของ David Schwartz ก็ยังคงงงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดของ FTX นั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะแล้วทำไมตัวของ Kevin ยังคงเชื่อมั่นใน Sam โดยเขาได้กล่าวในทวีตว่า
“บางทีความคิดของเขาคงอาจจะแบบ “เฮ้ หลายคนเสียเงินไปมาก แต่ Sam ทำให้ Kevin แน่ใจว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นดังนั้นตัวเขา (Kevin) จะร่วมลงทุนกับ Samอีกครั้ง แต่ถ้ามีคำอธิบายอื่นที่เป็นไปได้ผมเองก็อยากจะเชื่ออย่างนั้นผมไม่แน่ใจว่ามีคำอธิบายอื่นที่เป็นไปได้อีกหรือไม่”
ที่มา : CryptoPotato