ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Binance กระดานเทรดเจ้าใหญ่ของโลก ได้เห็นปริมาณเม็ดเงินไหลออกสุทธิเป็นตัวเลขสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ หลังจากมีข่าว FUD ที่แพร่สะพัดเกิดขึ้นในชุมชน Crypto
Changpeng “CZ” Zhao CEO Binance กล่าวว่า เขาเคยเห็นเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาก่อน และเขาเชื่อว่า “มันเป็นความคิดที่ดีที่เราจะได้ ‘ทดสอบการถอนเงินภายใต้แรงกดดัน’ บนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์”
แม้ว่าจะมีข่าว FUD เกิดขึ้นในชุมชน Crypto แต่หลายคนมองว่า Binance จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ด้วยดีและจะไม่ล้มละลายเหมือนอย่าง FTX ผู้สังเกตการณ์อีกส่วนหนึ่งมองว่า หาก Binance ล่มสลาย ทั้งอุตสาหกรรม Crypto อาจล่มสลายไปด้วย
Carl Runefelt มหาเศรษฐี Bitcoin ได้แสดงความคิดเห็นบน Twitter ว่า “หาก Binance ล่มสลาย พวกเราจะตายกันหมด”
Layah Heilpern นักเขียนและผู้สนับสนุน Bitcoin แสดงความคิดเห็นว่า “คุณตระหนักได้ว่า หาก Binance ล่มสลาย ทุกอย่างจะล่มสลายไปด้วย? ใช่ Bitcoin จะรอด แต่ระบบนิเวศ Crypto ที่เหลือรวมทั้ง stablecoin จะตาย”
ในขณะที่ผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งชื่อ Cognac แสดงความคิดเห็นว่า การล่มสลายของ Binance จะไม่ส่งผลดีอะไรต่อวงการ Crypto เลย และจะส่งทั้งวงการ “กลับสู่ยุคหิน”
Timverse ผู้ใช้งาน Twitter อีกราย เชื่อว่า หาก Binance ล่มสลาย มันจะส่งอุตสาหกรรม Crypto ให้ย้อนกลับไปเป็นปี แต่ Crypto จะอยู่รอด เพราะ Crypto “มีอยู่ก่อนหน้าที่ Binance จะเกิดขึ้น และมันจะอยู่ตรงนั้นหลังจากนั้น”
Del Crxpto นักวิเคราะห์ Crypto และที่ปรึกษาของรัฐบาล ได้กล่าวโทษสื่อ Crypto ที่ทำการแพร่กระจายข่าว FUD เกี่ยวกับ Binance โดยแสดงความคิดเห็นว่า “สื่อพยายามทำให้เกิดการแห่ถอนเงินออกจาก Binance ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาพยายามสร้างข่าวเพื่อให้เกิดสิ่งนี้หลายครั้ง ด้วยว่าอย่างน้อย Binance จะไม่ผ่านการตรวจสอบภายใน ความจริงคือ เวลาเป็นการตรวจสอบภายในครั้งที่หนึ่ง และ Binance ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถผ่านการทดสอบจากกาลเวลามาได้”
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม Cointelegraph รายงานว่า proof of reserves ที่ Binance เป็นผู้ทำเป็นการเตือนภัยต่อเหล่าผู้เชี่ยงชาญด้านบัญชีและการเงิน และถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ “เปล่าประโยชน์” โดยกระดานเทรดคู่แข่งที่ล่มสลายไปแล้ว
ที่มา: Cointelegraph