Changpeng Zhao CEO ของ Binance อธิบายว่าทำไมกระดานเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ระดับโลกเลือกที่จะไม่คืนเงินมัดจำจำนวน 200,000 BNB ให้กับ Mithril หลังจากเพิกถอนโทเคนเมื่อวานนี้
โครงการบล็อกเชน Mithril กล่าวว่าได้ฝากเงิน 200,000 BNB ให้กับ Binance ในปี 2018 หรือประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตามโครงการกลับไม่ได้รับความนิยมจึงทำให้ต้องถูกเพิกถอนเหรียญเมื่อวานนี้ โดยขณะนั้นมูลค่าของโทเคนที่ฝากไว้ในปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ ทำให้ในเวลาต่อมาทีม Mithril ต้องการเงินเหล่านั้นคืนสู่บริษัท
ทั้งนี้หัวหน้า Binance อธิบายว่าเหตุใดกระดานเทรดคริปโตจึงตัดสินใจเก็บเงินฝากของ Mithril Zhao โดยบอกเป็นนัยว่าทีมตัดสินใจถูกต้องแล้วที่จะไม่ปล่อยเงินมัดจำ โดยอ้างว่าการกระทำนั้นถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของกระดานเทรด
ทั้งนี้ Changpeng Zhao กล่าวบน Twitter ว่าเนื่องจากเว็บไซต์ของโครงการออฟไลน์อยู่ ทีม Mithril จึงละเมิดเงื่อนไขการลิสต์เหรียญบนกระดานเทรดยักษ์ใหญ่
ในการตอบกลับไปยัง Mithril Zhao กล่าวเพิ่มเติมว่า
“ราคาโทเค็นของคุณต่ำกว่าระดับทริกเกอร์เว็บไซต์ของคุณอยู่ในสถานะออฟไลน์ คุณไม่ได้ทวีตหรืออัปเดตชุมชนของคุณมาเกือบ 2 ปีแล้ว ผมเชื่อว่าทีมของเราได้ตัดสินใจถูกต้องและดำเนินการอย่างเต็มที่ภายใต้สิทธิ์ของเราที่จะทำเช่นนั้น”
Zhao เสริมว่าทีมมีสิทธิ์ในการรับเงินฝากซึ่งทำโดยโครงการ crypto ในสองเงื่อนไข อย่างแรกคือหากราคาของโทเค็นซื้อขายต่ำกว่าระดับทริกเกอร์หนึ่ง ๆ เป็นเวลานานกว่า 15 วัน และอย่างที่สองคือสถานการณ์ที่สร้าง “ผลกระทบในทางลบ” ต่อโครงการ โทเคน ผู้ใช้ และมีการสื่อสารที่ล้มเหลวเป็นเงื่อนไขที่สอง
“เงินประกันมีไว้เพื่อกระตุ้นให้ผู้สร้างสร้างต่อไป และนั่นหมายความว่าทีมของ Mithril หยุดทำงานในโครงการแล้ว”
อย่างไรก็ตามโฆษกของ Binance กล่าวว่าเมื่อโทเค็นไม่เป็นไปตามมาตรฐานอีกต่อไป พวกเขาจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและอาจถูกเพิกถอน โดยเงินประกันถูกรวบรวมไว้เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามและจูงใจประสิทธิภาพของโครงการ