Sam Bankman-Fried (SBF) ผู้ก่อตั้ง FTX ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกขนานนามว่าเป็นราชาแห่ง cryptocurrency ชื่อเสียงที่ของเขาอันตรธานหายไปพร้อมกับการล่มสลายของเว็บเทรดส่งผลให้เขาถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง
โดยก่อนการล่มสลาย Sam แสดงความมั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของ FTX โดยเขาได้แชร์แผนการขยายกิจการ FTX และพูดถึงเรื่องมรดกของเขา
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันที่ 16 กันยายน (FTX ยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022) Sam ระบุว่าเขาไม่สนใจมรดกของเขาในพื้นที่ คริปโต โดยยังโฟกัสหลักของเขายังคงอยู่ที่การสร้าง impact
“ผมไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับมรดกหรอก (คำสบถ) ผมสนใจเกี่ยวกับความ impact ที่ผมมีแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นสิ่งที่ผมพยายามเตือนตัวเองในตอนท้ายของวันสิ่งที่สำคัญคือ impact ที่ตัวผมต้องมี” เขากล่าว
ในเวลาเดียวกัน เขาได้แชร์วิสัยทัศน์ระยะยาวของเขาเกี่ยวกับอนาคตของ FTX แม้ว่าแพลตฟอร์มของเขาจะต่อสู้กับ crypto winter ที่ยืดเยื้อกินเวลานาน
จากคำพูดของ Sam แผนระยะยาวคือการทำ FTX ให้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงสภาพคล่องโดยเขาให้คำนิยามในสิ่งที่จะกระทำว่าเป็น ‘วิธีที่มีประสิทธิภาพที่ซับซ้อน’ ที่น่าสนใจคือปัญหาของ FTX ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อทางเว็บเทรดประสบปัญหาสภาพคล่องส่งผลให้ผู้ใช้ไม่สามารถถอนเงินได้
นอกจากนี้ Sam ยังระบุไว้อีกด้วยว่าเว็บเทรดนั้นตั้งใจที่จะได้รับอนุญาตในเขตอำนาจศาลที่ต่าง ๆ มากขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาอ้างว่า FTX นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการควบคุมมากที่สุดทั่วโลกโดย Sam ได้กล่าวไว้ว่า
“ส่วนหนึ่งของสิ่งนี้คือการเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ผู้คนสามารถเข้าถึงสภาพคล่องด้วยวิธีที่ซับซ้อนและทรงประสิทธิภาพมากนั้นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้ได้รับใบอนุญาตอย่างสมบูรณ์และคุณรู้ว่าเราคิดว่าเราเป็นเว็บเทรด crypto ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในสถานที่ต่าง ๆ มากที่สุดและอาจเป็นเว็บเทรดที่ได้รับใบอนุญาตโดยรวมมากที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับว่าคุณนับรวมทั่วโลกอย่างไร เราได้รับใบอนุญาตในหลาย ๆ เขตอำนาจศาลท้องถื่น”
ที่มา : Finbold