<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ข้อมูลเผยเกือบ 40% ของ เหรียญ Crypto ที่ถูก List บน CoinGecko ในปี 2021 ตอนนี้เป็น ‘เหรียญที่ตายแล้ว’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหรียญ Crypto กว่า 8,000 โทเค็นที่ถูกลิสต์ลงบน CoinGecko เมื่อช่วงปี 2021 ในขณะนี้ 40% ของเหรียญทั้งหมดกลายเป็นเหรียญที่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด ๆ หรือถูก Delist ออกจากเว็บไซต์ คิดเป็นโทเค็นกว่า 3,300 สกุล 

โทเค็นจำนวนกว่า 2.5 เท่าของจำนวนโทเค็นที่ถูกลิสต์เอาไว้เมื่อปี 2020 ได้กลายเป็น “dead coin” และคิดเป็น 3.5 เท่าหรือมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา Julia Ng หัวหน้าแผนกการเติบโตของตลาด CoinGecko เผยแพร่บทความงานวิจัยของเธอที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 กันยายน

“ในช่วงนี้ โปรเจกต์ Crypto หลายสกุลที่มีมูลค่าตลาดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีมูลค่าเลย ถูกเปิดตัวโดยนักพัฒนานิรนามหลายคน” Julia Ng กล่าว “โดยมีนักพัฒนาเพียงไม่กี่คนที่ทำโปรเจกต์นั้นอยู่จริง ๆ ทำให้โปรเจกต์ส่วนใหญ่มีอัตราการล้มเหลวที่สูง และส่งผลให้โปรเจกต์เหล่านั้นล้มตายลงไปในที่สุด”

มูลค่าตลาด Crypto ทั่วโลกลดลงอยู่ที่ 8.6 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2021 ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap 

การร่วงลงของมูลค่า Crypto ในระยะเวลาอันสั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของตลาดคริปโตหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของโครงสร้างระบบนิเวศบล็อกเชน เช่นเดียวกับการร่วงลงของมูลค่าตลาดหุ้นไม่ได้ส่งผลต่อภาคสาธารณสุขหรือเศรษฐกิจ

ตามข้อมูลจาก CoinGecko เหรียญ Crypto หลายเหรียญอาจได้เห็นมูลค่าที่ร่วงลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และบางโทเค็นอาจจะเพิกถอนออกจาก CoinGecko หากโปรเจกต์นั้นถูกพบว่าเป็น scam 

“หากไม่นับความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2021 มีเหรียญ Crypto จำนวนกว่า 947 โทเค็นที่ได้ตายลงและล่มสลายในช่วงปี 2018 ถึง 2022” Julia Ng กล่าวระบุ

Tony Saliba CEO บริษัท Liquid Mercury ผู้ให้บริการด้านการเทรด Crypto ได้อ้างอิงวัฎจักรของตลาด Crypto ที่บ่งชี้ให้เห็นว่าโปรเจกต์คริปโตจำนวนมากที่ถูกปล่อยออกมาจบลงด้วยการล่มสลายภายหลังจากจบช่วงตลาดกระทิง

“รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นในช่วงวัฎจักรสุดท้ายด้วยการที่หลายโปรเจกต์เลือกที่จะตามเทรนด์ตลาดกระทิงที่เกิดขึ้นมาปี 2017 สร้าง ICO เพื่อสนับสนุนโทเค็นขึ้นมามากมาย และโทเค็นหลายสกุลมีมูลค่าทราร่วงลงจนเป็นศูนย์ในช่วงปี 2018 ถึง 2019 ในขณะที่ราคา Bitcoin, Ethereum และเหรียญอื่น ๆ ร่วงลง” Tony Saliba กล่าวกับ Seeking Alpha ในอีเมล์


ที่มา: Seeking Alpha