เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า nassim (@smoltaleb) ได้เผยแพร่ชุดโพสต์ทวีตเกี่ยวกับพฤติกรรมของ Binance ที่กำลังมีการดำเนินการเหมือบกับ FTX ก่อนการล่มสลาย พร้อมตั้งแคปชันสำหรับทุกประเด็นว่า “let’s go” โดยนับรวมแล้วมีทั้งหมด 7 พฤติกรรมด้วยกันที่ทำให้ nassim ยกมาเป็นประเด็นให้ชุมชนคริปโตได้ฉุกคิดกัน
1. การแปลงเหรียญ Stablecoin มีความล่าช้าเมื่อธนาคารปิด
บัญชี Twitter ของ FTX เคยโพสต์ทวีตเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2022 ว่า :
“ธนาคารปิดทำการในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้ว่าการ Mint และการเคลมเหรียญ Stablecoin ไปเป็น USD อาจเป็นไปอย่างล่าช้า แต่การโอนเงินจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเหรียญคริปโต / chain บางประเภท”
เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับ Changpeng “CZ” Zhao ผู้บริหารของ Binance ในช่วงเวลานี้ด้วยเช่นกัน โดยเขาได้มีการโพสต์ทวีตเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาว่า
“เราได้เห็นแล้วว่ามีการถอนเงิน USDC เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่องทางในการเปลี่ยนจาก PAX/BUSD ไปเป็นเหรียญ Stablecoin USDC จำเป็นจะต้องผ่านธนาคารในนิวยอร์ก แต่ธนาคารจะไม่เปิดจนกว่าจะถึง 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเราคาดว่าสถานการณ์จะเริ่มฟื้นตัวเมื่อธนาคารเปิดให้ใช้งานได้อีกครั้ง”
2. TheBlock Research ตรวจสอบกระเป๋าเงิน
Larry Cermak รองประธานฝ่ายวิจัยจาก TheBlock Research เคยโพสต์ทวีตเกี่ยวกับ FTX ก่อนการล่มสลายว่า :
“เพื่อความโปร่งใส ผมจะเผยแพร่ฐานข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าเงินที่มีป้ายกำกับทั้งหมดของ Alameda 1. ยอดรวมของงบดุลบนเครือข่ายลดลง 230 ล้านดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว (ลดลง 47%) 2. เงินส่วนใหญ่ถูกฝากไว้ที่ FTX และ Genesis”
และในช่วงเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม Cermak ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าเงินของ Binance และโพสต์ทวีตด้วยเช่นกัน
3. สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
FTX เคยลงนามในเอกสารเงื่อนไขกับ BlockFi เพื่อรับประกันวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ และประกาศว่ากระดานเทรด FTX มีความแข็งแกร่งมากขึ้นจากความร่วมมือกับ BlockFi ในครั้งนี้
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน CZ ก็ได้ประกาศว่า Binance กำลังจัดตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูอุตสาหกรรมเพื่อลดผลกระทบด้านลบจาก FTX เพื่อช่วยเหลือโปรเจกต์ที่แข็งแกร่งแต่อยู่ในวิกฤตสภาพคล่อง
จะเห็นว่าทั้งสองเว็บเทรดต่างต้องการแสดงให้ลูกค้าเห็นเหมือนกันว่า บริษัทของพวกเขามีความมั่นคง และสามารถไว้วางใจได้ต่อไป
4. มีการโอนย้าย Crypto จำนวนมหาศาล
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน CZ โพสต์ทวีตในเชิงพาดพิงถึง FTX ว่า “ถ้ากระดานเทรดต้องโอนย้าย Crypto จำนวนมากก่อนหรือหลังการแสดงที่อยู่ของกระเป๋าเงิน นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของปัญหา อยู่ห่าง ๆ ไว้ และอยู่กับ SAFU”
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม Binance กลับเป็นฝ่ายที่ออกมากล่าวเองว่า
“เรากำลังดำเนินการรวมเงินจากที่อยู่เงินฝากไปยัง Hot wallet ของเรา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปของการตรวจสอบ POR ดังนั้นในช่วงเวลานี้ คุณอาจสังเกตเห็นว่าค่าธรรมเนียมก๊าซ ETH มีการเพิ่มขึ้นชั่วคราว และจะมีธุรกรรมจำนวนมากใน Hot wallet ของ Binance”
5. คลิปของ Nas Daily
Nas Daily ผู้ผลิตคลิปไวรัลชื่อดังบน Facebook ที่มียอดคนดูหลักล้านวิวขึ้นไป เคยทำคอนเทนต์คลิปวีดิโอที่กล่าวถึง Sam Bankman-Fried ว่าเป็น “มหาเศรษฐีใจดีที่สุด” และต่อมาเขาก็ได้ทำคลิปวีดิโอเกี่ยวกับ Changpeng Zhao ในธีม “มหาเศรษฐี Crypto ที่สุภาพที่สุด” ด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าฉุกคิดว่า Binance จะลงเอยเหมือนกับ FTX หรือไม่ ?
6. ใบอนุญาตเปิดตัวกระดานเทรดแห่งใหม่
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม Sam Bankman-Fried เคยโพสต์ทวีตว่า “รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับใบอนุญาตใบแรกสำหรับการเปิดกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลในดูไบ” พร้อมอ้างอิงถึงข่าวแถลงการณ์เปิดตัว FTX ในดูไบจาก Bloomberg
ต่อมา Binance ก็ได้มีการยื่นขอใบอนุญาตเพื่อให้บริการในพื้นที่ใหม่ ๆ อีกเช่นเดียวกัน โดย CZ ได้โพสต์ทวีตเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมว่า “การได้รับใบอนุญาตเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหักล้าง FUD” อีกทั้งยังได้มีการอ้างอิงถึงโพสต์เกี่ยวกับใบอนุญาตสำหรับการเปิดกระดานเทรดเพิ่มในอีก 2 เขตของสหรัฐอเมริกา
“Binance.US ประกาศในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมว่าได้เปิดตัวธุรกิจใน 2 เขตของสหรัฐอเมริกา โดยได้รับใบอนุญาตทั้งในกวมและอเมริกันซามัว”
7. ประมูลซื้อสินทรัพย์ของ Voyager
เมื่อวันที่ 27 กันยายนปีนี้ มีข่าวที่ว่า FTX ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ของ Crypto Lender Voyager Digital โดยการเสนอราคาของ FTX มีมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ และต่อมาเมื่อ 19 ธันวาคม Binance ก็ชนะการประมูลเพื่อซื้อสินทรัพย์ของ Voyager เช่นเดียวกัน
ที่มา: nassim