ในขณะที่การล่มสลายของ FTX ยังคงดำเนินต่อไป Sam Bankman-Fried อดีตผู้บริหารของบริษัท อาจต้องเผชิญกับความเข้มงวดทางกฎหมายที่สำคัญในโค้งสุดท้ายของปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฏหมายกล่าวว่า การป้องกันทางกฎหมายที่ดีที่สุดของ SAM BANKMAN-FRIED ในช่วงเวลานี้คือ การทำตัวเหมือนเป็น ‘บุคคลที่ไร้ความสามารถ’
“การจัดการบริษัทที่ผิดพลาดและสูญเสียเงินของคนอื่นจำนวนมาก มันไม่ใช่ความผิดทางอาญา” Randall Eliason อดีตอัยการ ซึ่งปัจจุบันสอนวิชากฎหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัย George Washington ของ DC กล่าวกับ Fortune “สิ่งนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ปกติแล้วคดีอาญาจำเป็นต้องมีเล่ห์เพทุบาย”
เพื่อให้ Bankman-Fried ถูกดำเนินคดีในศาลอาญา ฝั่งทนายความของรัฐหรือผู้ใช้บริการและนักลงทุนของ FTX จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เขาเจตนาจะก่ออาชญากรรมอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เป็นเพียงแค่การจัดการเงินหลายพันล้านใน crypto
ทั้งนี้ Eliason บอกกับนิตยสารว่า ทางอัยการจะพิสูจน์ให้ได้ว่า SBF และ FTX ตั้งใจที่จะหลอกลวงลูกค้าและรัฐบาลสหรัฐฯ
ทนายความด้านคริปโตอีกคนที่พูดกับ Fortune โดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า พวกเขาไม่สงสัยเลยว่าอัยการกระทรวงยุติธรรมจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขานำคดีภายใต้มาตรา 1343 ซึ่งเป็นกฎหมายอาญาของรัฐบาลกลาง ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการฉ้อโกง มาปรับใช้กับ Sam Bankman-Fried
ตามที่ Fortune ได้มีการบันทึกไว้ การฟ้องร้องภายใต้มาตรา 1343 จะมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี — ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่บทลงโทษที่สูงที่สุด แต่ก็อาจทำให้ Bankman-Fried ได้ใช้เวลาอยู่ในเรือนจำสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม SBF หรือสมาชิกหลายฝ่ายที่ถูกกล่าวหาและ/หรือเพื่อนร่วมบริหารที่ FTX ยังไม่ถูกตั้งข้อหาการก่ออาชญากรรมใดๆ ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้น อัยการจำต้องมาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าพวกเขาตั้งใจฉ้อโกงลูกค้าจริง ๆ
ที่มา : the_bitye