<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ความอ่อนแอของระบบเศรษฐกิจอาจทำให้ Bitcoin มีบทบาทในระบบการค้าของโลกในไม่ช้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลก เป็นผลทำให้ประเทศต่าง ๆ อาจยอมรับ Bitcoin ในไม่ช้า

ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ หรือภาระหนี้ในแต่ละประเทศดูเหมือนจะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ โดยระบบการเงินของโลกในตอนนี้มีเงินดอลลาร์สำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก โดยปัจจุบันการส่งออกทั่วโลกใช้งานดอลลาร์คิดเป็นสัดส่วนถึง 40%

แต่ในประวัติศาสตร์ทางการเงินพบว่าสกุลเงินสำรองของโลกสามารถมีได้หลายสกุล ทำให้หลายประเทศมองหาสกุลเงินสำรองที่จะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองทั่วโลก และ Bitcoin อาจจะเป็นคำตอบนั้น และหากมันถูกนำไปใช้จริง เราจะเห็นอิสระทางการค้าที่มีการใช้ Bitcoin ในการซื้อขาย และมองเห็นความเป็นจริงต่าง ๆ มากขึ้น และเครือข่าย Bitcoin ก็พร้อมสำหรับทำหน้าที่นั้นแล้ว

การซื้อขายโดยใช้ Bitcoin

มีสกุลเงินสำรองมากมายทั่วโลกตั้งแต่ดอลลาร์ไปจนถึงหยวนจีน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เงินดอลลาร์ก็เป็นสกุลเงินที่ผู้คนใช้งานกันมากที่สุดทั่วโลก

การใช้งาน Bitcoin จะมุ่งเน้นให้มันทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองควบคู่ไปกับสกุลเงินสำรองอื่น ๆ และหาก Bitcoin ถูกนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า มันก็จะเป็นระบบการเงินที่ไม่เป็นของประเทศใดประเทศหนึ่ง

ความสำคัญของเวลา

การที่จะให้ Bitcoin เป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกจำเป็นที่จะต้องมีเงื่อนไข 2 อย่าง ก็คือ อย่างแรกก็คือต้องเป็นช่วงเวลาที่โลกต้องการระบบการเงินที่ไม่ฝักใฝ่ใดฝ่ายหนึ่ง และมีความ Antifragile อย่างที่สองก็คือ ช่วงเวลาที่โลกของเราเจอกับข้อกำหนดที่ท้าทายมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก

ไม่ว่าเงินดอลลาร์จะถูกแทนที่ด้วยสกุลเงินอื่น ๆ ไม่ปัจจุบัน แต่เมื่อมี Bitcoin ปรากฏขึ้นแล้ว มันจะเป็นสกุลเงินที่มีศักยภาพมากพอที่จะมาแทนที่ตรงนั้นด้วยความสามารถของมันที่มาพร้อมกับความ Decentralized ของเครือข่าย

Bitcoin ในตอนนี้ยังมีหลายคนมองว่าเป็นเครือข่ายที่ช้าและใช้พลังงานมาก แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ใช้พลังงานเยอะและเรื่องความเร็วของเครือข่ายก็มีการแก้ปัญหาด้วยโซลูชั่นอื่น ๆ 

หรือจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือ เครือข่าย Bitcoin ในตอนนี้มีความแข็งแกร่ง และสามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น การมาถึงของ Lightning Network ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากหากประเทศและบริษัทขนาดใหญ่นำเครือข่ายนี้ไปใช้ ประเทศและบริษัทขนาดเล็กก็จะหันมาใช้งานมันตาม โดย Lightning Network ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้ามันจะมีปริมาณที่เยอะและเร็วพอที่จะแข็งขันกับสกุลเงิน Fiat ได้

และหากประเทศต่าง ๆ ไม่จำเป็นที่ต้องทำตามนโยบายทางการเงินที่มีการตั้งถิ่นฐานทางการค้าแบบจำกัด ก็จะทำให้ประเทศเหล่านี้มีปัจจัยด้านการผลิตที่สำคัญที่สามารถมีอำนาจในการเจรตาต่อรองเพิ่มขึ้นอย่างมาก

คำพูดที่พูดมานั้นไม่เกินใน เพราะในประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นแล้วว่า สถาบันการเงินเหล่านี้ใช้อิทธิพลทางการเมืองที่เกินขอบเขตและไม่สนถึงความเป็นจริงของสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น

ขั้วอำนาจจะถูกเปลี่ยน

จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของสหรัฐ ที่ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นและสร้างความเสียหายกับตลาดโลก ทำให้นาย Luke Gromen หนึ่งในนักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในระบบการเงิน

นาย Luke Gromen แนะนำว่าหากต้องการลงทุนระยสั้นก็ควรถือทอง หากเป็นระยะกลางถึงยาวให้ถือสินทรัพย์อย่าง Bitcoin ทองคำถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะมันถูกพิสูจน์มาแล้วในประวัติศาสตร์ แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ ก็ได้รับรู้ถึงคุณสมบัติของ Bitcoin ทำให้แต่ละประเทศอาจจะหันไปสนใจทองคำเพียงแค่ชั่วคราว

หากสิ่งนั้นเกิดขึ้นเราจะเห็นการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin และความอิสระทางการค้าก็จะเกิดขึ้น เกิดพันธมิตรใหม่ ๆ ระหว่างประเทศต่าง ๆ และพันธมิตรใหม่ ๆ จะทำให้มีเส้นทางการค้าใหม่ นโยบายทางการเงินที่ไม่เป็นธรรมจะไม่มีใครสนใจ และประเทศต่าง ๆ จะได้รับประโยชน์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความวุ่นวาย และเราไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์อะไรมันได้ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ หากมันเกิดขึ้น เราจะเป็นผู้ที่เป็นประจักษ์พยานการเปลี่ยนแปลงระบบการค้าของโลก

Source: Cointelegraph