<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การทำ Proof-of-Reserve จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหามันไม่ได้มีแค่ด้านเทคนิคเท่านั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Proof of Reserve เป็นอีกคำมีการพูดถึงกันอย่างมากในโลกคริปโต เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ กำลังพยายามทำให้นักลงทุนหายตื่นตระหนก และฟื้นตัวจากเหตุการณ์ตลาดซบเซาในโลกคริปโต หลังจากมีการถกเถียงมานาน เกณฑ์การทำ PoR ก็เริ่มมีปรากฏออกมาให้เห็นกัน แต่ประเด็นเรื่องวิธีการตรวจสอบหรือใครควรเป็นคนทำก็ยังคงเป็นปัญหาที่หลายคนตั้งคำถามอยู่

ความแตกต่างระหว่าง Proof of Asset และ Proof of Reserve ก็คือความรวดเร็วในการตรวจสอบที่มาพร้อมกับข้อบกพร่องของตัวมันเอง ความพยายามที่จะใช้ผู้ตรวจสอบระบบการเงินแบบดั้งเดิมมาตรวจสอบ PoR ของบริษัทใหญ่ ๆ นั้นดูเหมือนจะล้มเหลว และจำเป็นที่จะต้องหาผู้ตรวจสอบรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ

นาย Doug Schwenk CEO ของ Digital Asset Research หรือ DAR ได้กล่าวกับสื่อ Cointelegraph ว่า “ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่อาจทำให้การตรวจสอบ PoR นั้นเป็นที่พอใจแก่ผู้ใช้ได้” และเขาได้เสริมว่า

“พวกเราต้องการดู Proof of Reserve แต่ข้อมูลมันก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เรารู้สึกพอใจ แต่มันก็ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย และในโลกที่เรากำลังเป็นผู้นำอยู่ตอนนี้ การเริ่มต้นที่ดีย่อมดีกว่าการไม่มีอะไรเลย”

เพื่อให้มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น นาย Amit Chaurhay หัวหน้าฝ่ายวิจัย DeFi ของ Polygon ได้เสนอการตรวจสอบที่ต่างออกไปของแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจหรือแพลตฟอร์มแบบ DeFi และได้ออกมาบอกว่า “Proof of Reserve บน DeFi ควรค่าแก่การเรียกว่า Proof of Reserve”

นาย Chaurhay ได้บอกกับสื่อ Cointelegraph ว่า zkEVM ที่ได้รับการพัฒนาจากบริษัท จะนำมาใช้ในการทำ PoR และซอฟแวร์นั้นจะใช้ Merkle Tree เพื่อดูยอดคงเหลือทั้งสินทรัพย์และหนี้สิน และอนุญาติให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบบัญชีของตนได้ในขณะที่การรักษาความเป็นส่วนตัวอยู่ในระดับสูง โดยเขาได้ออกมาเสริมว่า

“คุณสามารถปรับใช้ระบบบัญชีบน zkEVM ได้ และคุณสามารถออกแบบระบบบัญชีของคุณเองได้”

นอกจากนี้นาย Matthew Niemerg ผู้ก่อตั้ง Aleph Zero Blockchain ได้บอกว่า การตรวจสอบบนระบบการเงินแบบรวมศูนย์หรือ CeFi เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ใหญ่กว่ามาก เนื่องจากสินทรัพย์และหนี้สินต่าง ๆ เกิดขึ้นนอกเครือข่าย ทำให้ไม่มีวิธีที่จะแสดงหลักฐานดังกล่าวออกมาได้

กระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ต่างกำลังหาทางตรวจสอบ PoR ในแบบที่ผู้ใช้งานพอใจ โดยกระดานเทรด OKX ได้ตั้งใจที่จะทำการตรวจสอบ PoR ใหม่ทุกเดือน และใช้ PoR ตามโปรโตคอล Merkle tree แบบ Open-Source พร้อมกับการใช้งาน Nansen Dashboard

OKX ได้บอกว่ากับสื่อ Cointelegraph ว่าการตรวจสอบสินทรัพย์ 3 อันดับแรกได้แก่ BTC, ETH และ USDT ใช้การตรวจสอบตามโปรโตคอล Merkle Tree เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสินทรัพย์ที่อยู่ในกระดานเทรดได้ และทางกระดานเทรด OKX ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า

“OKX ได้เปิดเผยที่อยู่กระเป๋าผ่านทาง Nansen Dashborad” และสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสินทรัพย์ของ OKX ได้แบบ Real-Time ทำให้ผู้ใช้แน่ใจว่าทางกระดานเทรดมีสินทรัพย์เพียงพอสำหรับการถอน

Source: Cointelegraph