<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

หัวหน้า IMF เตือนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจส่งผลถึงตลาดเกิดใหม่อย่าง Bitcoin และ Crypto

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่ตลาด Bitcoin และ Crypto กำลังเผชิญหน้ากับการล่มสลายของกระดานเทรด FTX หัวหน้า INF อย่าง Kristalina Georgieva ก็ได้ออกมาเตือนถึงภาวะถดถอยทั่วโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อหนึ่งในสามของเศรษฐกิจทั้งหมดในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับกรรมการผู้จัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ Kristalina Georgieva ได้กล่าวว่าเศรษฐกิจโลกจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ภายใน 2023 และนั่นอาจหมายถึงภาวะถดถอยได้เข้ามาถึงแล้ว

Georgieva อธิบายว่าการเติบโตที่ชะลอตัวของจีนเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ โดยที่กลไกขับเคลื่อนการเติบโตหลักอื่นๆ ของเศรษฐกิจโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ก็กำลังจะประสบกับภาวะชะลอตัวเช่นกัน

“เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่การเติบโตของจีนในปี 2022 มีแนวโน้มที่จะเท่ากับหรือต่ำกว่าการเติบโตทั่วโลก อีกทั้งการชะลอตัวในสหภาพยุโรปยังสามารถพบเห็นได้อย่างชัดเจนซึ่งเกิดจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย”

หัวหน้ากองทุนการเงินระหว่างประเทศเตือนว่าตลาดเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลัก แม้ว่าแต่ละประเทศจะยังไม่ถดถอยแต่สำหรับประชาชนหลายร้อยล้านคนอาจรู้สึกเหมือนกำลังถดถอย

“ครึ่งหนึ่งของสหภาพยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดและสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้”

ในการประชุม FOMC ที่ผ่านมา ตลาดแรงงานของสหรัฐจะเป็นจุดสนใจหลักสำหรับธนาคารกลางของสหรัฐในการตัดสินใจว่าเมื่อใดเศรษฐกิจจะสมดุล 

Bitcoin และ Crypto จะเป็นอย่างไร?

คำถามนี้เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญสำหรับปี 2023 และเป็นคำถามที่ถกเถียงกันมากที่สุด เห็นได้ชัดว่า Bitcoin ยังไม่ได้ทำตามสัญญาในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อในปี 2022 ในขณะที่ทองคำมีผลการดำเนินงาน YTD ที่ -1% ราคา BTC ร่วงลงถึง 65%

นอกจากนี้ยังเป็นความจริงที่ว่า Bitcoin และ crypto ไม่เคยซื้อขายในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นจึงขาดการเปรียบเทียบในอดีต นอกจากนี้ควรเห็นได้ชัดว่านักลงทุนรายย่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการลงทุนใน BTC เมื่อคนส่วนใหญ่ทำเศรษฐกิจไม่ดี

อย่างไรก็ตามในทางกลับกันอาจเป็นโอกาสใหม่สำหรับ Bitcoin ที่จะสร้างตัวเองให้เป็น “เงินที่หายากที่สุด” ในโลกด้วยอุปทานสูงสุด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งจะมาแทนที่ทองคำอย่างที่เคยเป็นมา หรือ Bitcoin จะได้รับส่วนแบ่งที่ยุติธรรมในฐานะทองคำดิจิทัล