เมื่อสองวันที่ผ่านมา Cameron Winkelvoss หนึ่งในผู้ก่อตั้งกระดานเทรด Gemini ได้โพสต์ทวีตจดหมายถึง Barry Silbert CEO ของ Digital Currency Group เจ้าของ Genesis & Grayscale เพื่อทวงถามถึงเงินของ Gemini Earn
Gemini Earn เป็นบริการรับฝาก Crypto และจ่ายดอกเบี้ยให้แก่นักลงทุนรายย่อย ซึ่งทาง Gemini ได้นำเงินของนักลงทุนมาฝากไว้กับ Genesis อีกทีหนึ่งเพื่อกินส่วนต่างดอกเบี้ย โดยเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทาง Genesis ได้ระงับการถอนเงินทั้งหมดจากปัญหาสภาพคล่อง จนส่งผลให้ผู้ใช้ Gemini Earn ไม่สามารถถอนเงินของตัวเองออกมาได้
เหตุการณ์ดังกล่าวคือที่มาของจดหมายทวงหนี้ที่ Cameron Winkelvoss จงใจโพสต์ลงในพื้นที่สาธารณะอย่าง Twitter เพื่อกดดันนาย Barry Silbert โดยมีใจความโดยย่อดังนี้
Cameron ระบุว่าเงินของ Gemini Earn ที่ Genesis ติดค้างอยู่มีมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินเหล่านั้นเป็นเงินของผู้ใช้งาน Gemini Earn จำนวนกว่า 3.4 แสนราย โดยทาง Gemini ได้พยายามติดต่อ Barry เพื่อเคลียร์เรื่องนี้มานานกว่า 6 สัปดาห์ ผ่านความพยายามในการนัดเจอหลายครั้งตั้งแต่วันที่ 2, 17, และ 25 ธันวาคม 2022
อย่างไรก็ตาม นาย Barry บ่ายเบี่ยงการนัดเจอมาตลอด แล้วทาง DCG ก็ได้รับหนี้ก้อนนี้ของ Genesis มาอีกต่อ ซึ่งมีกำหนดการใช้คืนในเดือนพฤษภาคมของปี 2023
ต่อมา Cameron ได้กล่าวหาว่า Barry ใช้เงินของ Gemini และนักลงทุนคนอื่น ๆ เพื่อนำไปซื้อหุ้นของ Grayscale คืน โดยมีจุดประสงค์เพื่อพยุงราคาของ Grayscale Share ที่ตอนนี้มีราคา NAV ต่ำกว่าที่ควรถึง 50% ซึ่งนี่เป็นการพยายามสร้างรายได้ปลอม ๆ ให้แก่กอง Trust ต่าง ๆ ของ Grayscale
Cameron ชี้อีกว่าทั้ง DCG และ Genesis ต่างรับคำสั่งของ Barry โดยตรง ดังนั้น Barry จึงเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด นอกจากนี้ Cameron ยังได้กล่าวหาอีกว่านาย Barry ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความโลภและทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตนเองอย่างไร้จริยธรรม และสุดท้าย นาย Cameron ก็ยื่นคำขาดว่า Barry ต้องมาร่วมแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังภายในวันที่ 8 มกราคม
หลังจาก Cameron โพสต์จดหมายดังกล่าว Barry ก็ได้ออกมาตอบโต้ว่าทาง DCG ไม่ได้ยืมเงินจาก Genesis และทาง DCG ก็ไม่เคยเบี้ยวการจ่ายดอกเบี้ยให้กับ Genesis อีกทั้ง Barry ยังกล่าวอีกว่า DCG ได้ยื่นข้อเสนอใหม่แล้วในวันที่ 29 ธันวาคม แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากทาง Gemini
จากนั้น Cameron ก็ออกมาสวนกลับว่า “ไหนบอกไม่เคยยืมเงินจาก Genesis แล้วจ่ายดอกเบี้ยมาเป็นค่าอะไร? เลิกโกหกและทำตัวเหมือนเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องสักที” จนทำให้ Barry เงียบไปและไม่ได้ออกมาโพสตอบโต้อะไรอีก
นอกจากนี้ Zhu Su จาก 3AC ที่ล่มสลาย ยังออกมาผสมโรงด้วยการกล่าวหาว่า DCG ร่วมมือกับ FTX ในการโจมตีราคา LUNA, UST, และ STETH แต่สุดท้ายกลับโดนเสียเองเพราะการล้มของ LUNA กลายเป็นปฏิกริยาลูกโซ่ที่ดึงให้ 3AC, Babel และบริษัทอื่น ๆ ที่ดันเกี่ยวข้องเป็นเจ้าหนี้และถือแชร์ GBTC จนส่งผลให้ราคา NAV ร่วงลงอย่างหนัก
Zhu Su กล่าวหาว่า DCG พยายามโยกเงินจากกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวาเพื่อปกปิดรูโหว่ทางการเงินของบริษัท และยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้จะรู้ตัวว่าบริษัทขาดสภาพคล่องและคงไปไม่รอดแล้ว โดยเปรียบเทียบว่า Barry เป็นมิจฉาชีพเหมือนกับ SBF
Zhu Su ยังชี้อีกว่าสุดท้ายแล้วลูกหนี้ทั้งหลายก็จะร่วมกันฟ้องล้มละลาย Genesis และดึง DCG กับ Grayscale ที่ยังพอมีสินทรัพย์เหลืออยู่ลงไปด้วย เพื่อหาเงินมาชดใช้หนี้
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือทาง Grayscale เป็นหนึ่งในผู้ที่ถือ Bitcoin และเหรียญ Crypto อื่น ๆ จำนวนมหาศาลมากที่สุด โดยมี Bitcoin ในมือกว่า 6.3 แสน BTC มี Ethereum กว่า 3 ล้าน ETH และ ETC ถึง 11.8 ล้าน ETC เลยทีเดียว
ถ้าหาก DCG และ Grayscale โดนฟ้องล้มละลายและต้องขายทรัพย์สินเพื่อปิดหนี้ ก็เป็นที่น่ากังวลว่าในตลาดยังจะมีใครพร้อมทำดีล OTC เพื่อรองรับเหรียญ Crypto จำนวนมหาศาลเหล่านี้หรือไม่ ดังนั้นประเด็นนี้อาจกลายเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 15,000 ดอลลาร์ได้ในที่สุด
ถ้าหากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดโลก เศรษฐกิจ และ Crypto กันได้ที่กลุ่ม Line Open Chat Insight On-Chain
ขอบคุณข้อมูลจาก : Insight On-Chain : ส่องข้อมูลออนเชน