หลังจากการล่มสลายของ FTX กิจกรรมการซื้อขาย Bitcoin ในกระดานเทรดหลายแห่งก็ได้ชะลอตัวลง แต่ในขณะเดียวกัน การเข้าซื้อกิจการบางแห่งได้กลายเป็นที่จับตามองอย่างมาก และตัวเอกของงานที่ใคร ๆ ก็ละสายตาไม่ได้นั้น คงหนีไม่พ้นกระดานเทรดอันดับหนึ่งอย่าง Binance ที่มีอิทธิพลในตลาด Crypto มากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี 2022
ในปีที่เกิดวิกฤตขนาดใหญ่อย่างการล่มสลายของ FTX และ Celsius ข้อมูลจากการวิจัยของ Arcane แสดงให้เห็นว่ากระดานเทรด Binance ได้กลายเป็น “ผู้ชนะ” อย่างชัดเจน
รายงานการวิจัยจาก Arcane เมื่อวันที่ 3 มกราคม เน้นย้ำว่า Binance ได้ครองส่วนแบ่งตลาด Crypto อย่างเบ็ดเสร็จในปี 2022 โดยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมปีที่แล้ว Binance ได้ครอบครองส่วนแบ่งวอลุ่มซื้อขายสูงถึง 92% ของตลาด Bitcoin Spot และ 61% ของตลาด Bitcoin Future ในทั่วโลก
“ไม่มีกระดานเทรดเจ้าอื่น ๆ ที่เป็นผู้ชนะอย่างชัดเจน ในปี 2022 นอกเหนือไปจาก Binance โดยถ้ามองไปยังโครงสร้างตลาด Crypto และการครองส่วนแบ่งการตลาด ไม่ว่าคุณจะมองในแง่ของกิจกรรมการซื้อขายอย่างไร Binance ก็คือตลาด Crypto”
การครองส่วนแบ่งตลาดสปอต Bitcoin ของ Binance อยู่ที่ 45% ในช่วงต้นปี 2022 ซึ่งหมายความว่ากระดานเทรดดังกล่าวได้ครองตลาดสปอต Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาด Bitcoin Future เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า โดยปริมาณการซื้อขายสปอตเป็นตัวชี้วัดตามจำนวนรวมของ Bitcoin ที่ถูกทำธุรกรรมในกระดานเทรดสปอตในแต่ละวัน
รายงานการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ส่วนแบ่งตลาด Bitcoin ของ Binance ได้ขยายวงกว้างขึ้นก่อนการล่มสลายของ FTX โดยจุดเริ่มต้นนั้นคือ ช่วงหลังจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับคู่การซื้อขายบางคู่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2022
ทั้งนี้ Binance ยังได้เข้าซื้อกิจการยักษ์ใหญ่ที่มีความโดดเด่น เพื่อขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วโลกในปี 2022 เช่น แพลตฟอร์มการซื้อขายของญี่ปุ่น Sakura Exchange BitCoin รวมถึงบริษัทนายหน้าซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของชาวอินโดนีเซีย Tokocrypto
นอกจากนี้ Binance ยังเป็นหนึ่งในบริษัทกระดานเทรดไม่กี่แห่งที่เพิ่มจำนวนพนักงานตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ เช่น Kraken และ Coinbase กลับถูกปัจจัยต่าง ๆ บังคับให้เลิกจ้างพนักงานท่ามกลางช่วงฤดูหนาว Crypto ในปัจจุบัน
ตามรายงานวันที่ 30 ธันวาคม Arcane ได้คาดการณ์ถึงอนาคตว่า Binance จะกลับไปดำเนินการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายอีกครั้งในปี 2023 ซึ่งจะนำไปสู่การทำให้ “การผูดขาดตลาดคริปโตกลับคืนเป็นสภาวะปกติ”
รายงานของบริษัทข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัล CryptoCompare เมื่อวันที่ 3 มกราคม ระบุว่า การยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมได้ช่วยให้กระดานเทรดสามารถดึงดูดลูกค้าได้ แต่ทว่า Binance จึงไม่สามารถใช้กลยุทธ์นี้เป็นระยะเวลานานโดยไม่กระทบต่อผลกำไรที่บริษัทจะได้รับ
ที่มา: cointelegraph