ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 – 13 เมษายน นักเทรดชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งได้ไลฟ์สดโชว์เทรด Bitcoin ลงบนช่อง YouTube แต่ผลปรากฏว่าเขากลับขาดทุนอย่างหนัก แต่นักเทรดรายนี้ยืนกรานไม่ยอมแพ้ ก่อนจะตัดสินใจฝืนเทรดต่อไปในวันที่ 14 เมษายน จนสูญเงินไปกว่า 11 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียง 8 ชั่วโมง
ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงอยากพาทุกคนมาดูไปพร้อมกันว่า ชาวเกาหลีใต้รายนี้ ‘เทรดอย่างไร ให้พอร์ตแตก’
ในช่วงก้าวแรกของการเริ่มเทรดนั้น นักเทรดรายนี้มีทุนอยู่ที่ 380,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13 ล้านบาท) เขาเริ่มเทรด Bitcoin จำนวน 240 BTC ด้วยอัตรา Leverage 40 เท่า ดังนั้นคำสั่งซื้อขายที่เขาถืออยู่ในขณะเทรดจึงสูงเกือบ 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 300 ล้านบาท)
เทคนิคสำคัญที่ชาวเกาหลีใต้รายนี้ใช้ในการเทรด คือ เขาใช้ Leverage ตั้งแต่ 40 เท่า, 80 เท่า และบางครั้งก็มากกว่า 100 เท่า โดย indicator ที่เขาใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ Bollinger Band และ Moving Average และใช้ Timeframe 1 นาที ในการเทรด
ในขณะที่เขาเปิด long เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2022 Bitcoin มีราคาอยู่ที่ 41,000 ดอลลาร์ โดยราคา Bitcoin นั้นร่วงลงสลับเพิ่มขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง ดังนั้นในภาพรวมจึงดูเหมือนว่าราคาของ Bitcoin จะอยู่ในช่วง sideway ในวันนั้น แต่เขาก็ทนถือไปเรื่อย ๆ และแม้จะติดลบกว่า 4 หมื่นดอลลาร์ สีหน้าของเขาก็ยังคงดูนิ่งเฉยอยู่
ในทางกลับกัน เมื่อราคากลับตัวจนพุ่งขึ้นสูงกว่าจุดที่เขาเข้าตลาด ชายคนนี้ก็ไม่ได้ตัดสินใจขาย และถือต่อไป จนราคาร่วงลงอีกครั้ง จากนั้นสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น โดยราคา Bitcoin ปรับตัวลงมาอย่างหนัก จนติดลบเกินแสนดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่นาที และติดลบเกือบ 3 แสนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เขาจึงเลิกถือยาว และเริ่มซื้อ ๆ ขาย ๆ แต่พอร์ตของเขาก็ไม่ได้กำไรกลับคืนมา
ในช่วงท้ายก่อนที่เขาจะขาดทุนอย่างมหาศาล ดูเหมือนว่านักเทรดรายนี้จะเริ่มใช้อารมณ์ในการเทรดแล้ว โดยเขาได้ปรับอัตรา Leverage เพิ่มขึ้นจนสูงมากถึง 100 เท่า ทว่าราคา Bitcoin ก็ยังคงร่วงลงอย่างไม่มีทีท่าจะกลับตัว ประกอบกับการที่เขาซื้อ Bitcoin ไปมากถึง 240 BTC จึงนำไปสู่การขาดทุนจนพอร์ตแตกยับ และโดนบังคับ force sell ในที่สุด
นักเทรดชาวเกาหลีใต้ปิดไลฟ์ลงด้วยเงินที่เหลือเพียง 60,000 ดอลลาร์ นับว่าการเทรดในครั้งนี้ เขาขาดทุนไปมากถึง 320,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 11 ล้านบาทเลยทีเดียว
เรื่องราวของนักเทรดเกาหลีใต้คนนี้ถือเป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของการใช้ Leverage ได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก Leverage ทำให้เรามีอำนาจในการซื้อขายมากยิ่งขึ้น สมมุตถ้าหากเราเลือก Leverage 1:10 นั่นหมายความว่าเราจะสามารถซื้อขายได้มากกว่าเงินที่เรามีถึง 10 เท่า โดยถ้าหากเราใช้ Leverage เพื่อซื้อคริปโตเยอะกว่าเงินที่เรามี ก็จะถือเป็นการ overtrade
ดังนั้นถ้าสมมุตว่าเรานำเงิน 20,000 ดอลลาร์ไปวางประกันไว้กับโบรกเกอร์ เพื่อซื้อ Bitcoin ในราคา 20,000 ดอลลาร์ โดยใช้ Leverage ซื้อมาทั้งหมด 10 BTC ต่อมาราคา Bitcoin ร่วงลงไป 10% หมายความว่าเราจะขาดทุน 2,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC และขาดทุนรวมถึง 20,000 ดอลลาร์ เท่ากับว่าเงินที่เราวางประกันไว้กับโบรกเกอร์จะหายไปทั้งหมด และเราก็ไม่สามารถติดลบต่อไปได้อีก โบรกเกอร์ก็จะทำการบังคับขาย (force sell)
การใช้ Leverage จึงเปรียบเสมือนดาบสองคม ที่จะทำให้เราได้เงินเยอะมากถ้าคริปโตราคาขึ้น แต่ถ้าหากราคาร่วง เราก็จะขาดทุนอย่างมหาศาลจนพอร์ตแตกได้ และถ้าใครต้องการดูคลิปวิดีโอตัวอย่างเทคนิคการเทรดให้พอร์ตแตก ก็สามารถเข้าไปดูต้นฉบับกันได้ใน YouTube ช่อง 스트리머 사또 live-streamer satto
คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา: Uhas Trader