ผู้พิพากษา Martin Glenn ซึ่งเป็นประธานในคดี Celsius ยื่นฟ้องล้มละลาย ตัดสินเมื่อวันที่ 4 มกราคมว่า เงินทุนใน Earn program ของ Celsius ตกเป็นของ Celsius ภายใต้เงื่อนไขของโครงการ โดยเงินทุนนี้มีจำนวนมูลค่าสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์
“ประเด็นเรื่องความเป็นเจ้าของทรัพย์สินใน Earn Account เป็นประเด็นด้านกฎหมายสัญญา” Martin Glenn เขียน อ้างอิงจากเงื่อนไขการใช้บริการฉบับล่าสุดของ Earn program ซึ่งระบุว่า Celsius ถือครองสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ทั้งหมดในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสิทธิ์ดังกล่าว รวมถึงสิทธิความเป็นเจ้าของ
ผู้พิพากษาได้กล่าวว่า เงื่อนไขการใช้บริการนั้น “ไม่มีความคลุมเครือ” และชี้ว่า หากเงินทุนที่เป็นปัญหาตกเป็นของลูกหนี้ ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับการยื่นฟ้องล้มละลายตามมาตราที่ 11 ที่เกี่ยวข้องกับการการแจกจ่ายเงินทุนให้กับเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งทำให้เกิดผลที่เท่าเทียมกันมากกว่ากรณีที่เจ้าของบัญชีบางรายได้รับการประกาศให้เป็นเจ้าของเงินที่ถูกล็อกไว้ในโปรแกรม
“อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ในความเห็นนี้ ศาลขอสงวนสิทธิ์ของเจ้าหนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อต่อสู้ต่าง ๆ และการเรียกร้องการผิดสัญญา โดยเจ้าหนี้มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาอย่างเต็มที่เกี่ยวกับข้อดีของข้อโต้แย้งเหล่านี้ในระหว่างกระบวนการแก้ปัญหาการเรียกร้อง”
ศาลได้ขยายเวลาให้กับ Celsius เพื่อจัดทำแผนการปรับโครงสร้างหนี้ตามมาตราที่ 11 ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ โดยผู้พิพากษาได้สั่งให้คืน Crypto ที่ถือไว้ในบัญชีดูแลสินทรัพย์ของลูกค้าเป็นมูลค่ากว่า 44 ล้านดอลลาร์ภายในวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่ง Celsius ได้ประกาศล้มละลายตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม
การพิจารณาคดีนี้ยังได้อ้างอิงถึงเหรียญ stablecoins มูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ใน Earn program ที่ Celsius พยายามขายเมื่อก่อนหน้านี้ โดยกล่าวว่า Celsius ควรได้รับอนุญาตในการขายเหรียญ stablecoin เหล่านั้น
“หากใช้ดุลยพินิจทางธุรกิจ ลูกหนี้ได้มีการกำหนดเหตุผลทางธุรกิจอย่างสมเหตุสมผลในขาย stablecoin จำนวนนี้”
United States Trustee และหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของรัฐฯ ได้ปฏิเสธการอนุญาตให้ Celsius ทำการขาย stablecoin โดยระบุว่า Celsius มีสภาพคล่องมากพอที่จะดำเนินการไปอีกหลายเดือน
ที่มา: Cointelegraph