<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิจัยชาวจีนอ้าง ! ถอดรหัส RSA ด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมสำเร็จแล้ว หรือนี่คือจุดจบของ Bitcoin ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่โลกยังคงสับสนว่าปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำอย่างเช่น ChatGPT จะไปไกลได้มากแค่ไหน นักวิจัยชาวจีนกลุ่มหนึ่งเพิ่งออกมาอ้างว่า พวกเขาสามารถถอดรหัส Crypto โดยใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมสำเร็จแล้ว ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าจะเกิดขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า

นักวิจัยชาวจีนกลุ่มหนึ่งตีพิมพ์ “เอกสารทางวิทยาศาสตร์” เมื่อเดือนที่แล้ว โดยกล่าวว่าพวกเขาสามารถใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อทำลายอัลกอริทึม RSA มาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายอุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร โทรศัพท์มือถือ และที่จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ใช้ในการเข้ารหัส

ตามรายงานของ Financial Times นักวิจัยชาวจีนกล่าวว่าพวกเขาใช้อัลกอริทึมเพื่อแยกตัวประกอบของตัวเลขที่มี 48 bits ในคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มี 10 qubits (quantum bits) โดยพวกเขายังไม่ได้ขยายขนาดระบบให้ใหญ่ขึ้นด้วยซ้ำ

แม้ว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวจะก่อให้เกิดความกังวลด้านการรักษาความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกลับมองว่า การก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นยังเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีส่วนใหญ่เชื่อว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นการหลอกลวง เพื่อมุ่งเป้าไปที่การสร้างความตื่นตระหนกในชุมชน Crypto

“เพื่อนร่วมงานของเราเรียกมันว่าเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นในรอบ 25 ปี” Andre Konig ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Global Quantum Intelligence กล่าวกับ Decrypt ในการให้สัมภาษณ์

Konig เรียกคำกล่าวอ้างเหล่านั้นว่า “โฆษณาเกินจริง” ที่การใช้วิธีและแนวทางที่มีอยู่โดยขาดการพิสูจน์แนวคิดที่แสดงให้เห็นถึงความความสำเร็จด้านการทำลายมาตรฐานการเข้ารหัสในปัจจุบัน

คอมพิวเตอร์ควอนตัมคืออะไร?

แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีประสิทธิภาพมากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปหลายเท่า แต่ผู้ที่ชื่นชอบ Crypto บางคนก็ยังคงหวาดกลัวว่าวันหนึ่งอาจมีอะไรบางอย่างมาทำลายการเข้ารหัสที่รักษาความปลอดภัยให้กับ Bitcoin

“บางคนในอุตสาหกรรมของเราเรียกเหตุการณ์นั้นว่า Y2Q” Konig กล่าว โดยเขาอธิบายว่า Y2Q เป็นช่วงเวลาในอนาคตที่ไม่มีใครทราบว่าจะมาถึงเมื่อใด แต่อุตสาหกรรมกำลังสำรวจความเป็นไปได้ของวันที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถทำสำเร็จ

“ผมคิดว่ามันจะต้องใช้เวลาประมาณสิบปีถึงจะเกิดขึ้น” Konig กล่าว “แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการข้อมูลสำคัญ คุณอาจจะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันนี้”

ที่มา: decrypt