ข้อมูลจากการวิเคราะห์ของ Forbes แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ที่ลูกค้าถอนเงินสดออกจากกระดานเทรด Binance นั้นย่ำแย่ยิ่งกว่าที่ Changpeng Zhao เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว อีกทั้งสถานการณ์นี้ยังรุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Binance กระดานเทรด Crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังดิ้นรนเพื่อถือครองสินทรัพย์ เพราะหลังจากการล่มสลายของคู่แข่งอย่าง FTX นักลงทุนได้แห่ถอน Crypto ของพวกเขาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และถึงแม้จะมีการรับรองจาก Changpeng Zhao ว่าสถานการณ์มีเสถียรภาพ แต่เงินสดที่ลูกค้าถอนเงินออกไปก็มีจำนวนมากขึ้น จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้อมูลจากบริษัทข้อมูล crypto Defillama แสดงให้เห็นว่า Binance มียอดถอนเงินสุทธิ 360 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 12,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม Nansen บริษัทข้อมูล Crypto ระบุว่า Binance ได้สูญเสียสินทรัพย์มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคิดเป็น 4% ของมูลค่าทั้งหมดของบริษัทในขณะนั้น
ทั้งนี้จากการสืบสวนของ Forbes เปิดเผยว่า ในความเป็นจริง Binance สูญเสียสินทรัพย์ไปแล้ว 15% นับตั้งแต่ CZ โพสต์บน Twitter ว่าเขามองข้ามการถอนเงินไป ในขณะที่รายงานของ Nansen ระบุว่า Binance สูญเสียสินทรัพย์ไปเกือบหนึ่งในสี่ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน
การที่นักลงทุนถอนเงินเนื่องจากการขาดความไว้วางใจนั้น จะเห็นได้ดีที่สุดจากประสิทธิภาพของ Binance Coin ( BNB) และ Binance USD (BUSD) ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยมของแพลตฟอร์ม โดย BNB มีมูลค่าลดลง 29% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
Forbes ได้ประมาณการว่า Binance เหลือเหรียญ BNB ประมาณ 29 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าข้อมูลที่ Binance เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนประมาณ 51% และในขณะเดียวกันจำนวนของเหรียญ Stablecoin และ BUSD ก็ลดลงไปมากถึง 40%
นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่า Binance จะสูญเสียความไว้วางใจและอิทธิพลที่มีต่อนักลงทุน โดยในขณะที่สินทรัพย์สุทธิมีปริมาณลดลง 24% ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน นักลงทุนในเหรียญ Crypto ที่รู้จักกันดี เช่น MATIC, APE และ Gala ต่างแยกสินทรัพย์ของพวกเขาออกจากกระดานเทรดไปแล้ว 40-50%
แม้ว่า Binance จะยังคงเป็นกระดานเทรด Crypto ที่ใหญ่ที่สุดตามปริมาณ แต่ตามรายงานของ Nomics เหรียญ BNB มีราคาลดลงเกือบ 37% จาก 12 เดือนที่แล้ว อีกทั้งการตัดสินใจที่จะหยุดเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อขายสปอต Bitcoin เนื่องจากความไม่แน่นอนตลาด ก็ทำให้ Binance สูญเสียรายได้ไปประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปีตามการประเมินของ Forbes
ในปีที่ผ่านมา มูลค่าโดยรวมของเหรียญ Crypto ต่าง ๆ ในตลาดลดลงมากขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วมูลค่าลดลงไป 56% จนมูลค่าตลาดอยู่ที่ 8 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ข้อมูลจาก CoinMarketCap แสดงให้เห็นว่า CZ มีส่วนทำให้ FTX ล่มสลายในเดือนพฤศจิกายน จากการที่เขาประกาศบน Twitter ว่ากำลังวางแผนเทขายเหรียญ FTT ของคู่แข่ง อีกทั้งการยกเลิกข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการยังหมายความว่า CZ ได้ดูข้อมูลของ FTX ในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงกว่าที่เคยคาดคิดไว้
ที่มา: forbes