จากเอกสารของศาลล้มละลายที่ตรวจสอบโดย Business Insider พบว่า FTX Digital Markets มีมูลค่าสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์ระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายนปีที่แล้ว ก่อนที่จะยื่นฟ้องล้มละลายในเดือนพฤศจิกายนเนื่องจาก “ปัญหาสภาพคล่อง”
ทั้งนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เอกสารที่ยื่นต่อศาลได้เปิดเผยว่า กระดานเทรด FTX ใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับโรงแรมหรู เที่ยวบิน และอาหาร ตลอดช่วง 9 เดือนก่อนที่จะล้มละลาย
โรงแรมและที่พักสุดหรูดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่า 15 ล้านดอลลาร์ โดย 5.8 ล้านดอลลาร์มาจากรีสอร์ทแห่งเดียวคือโรงแรม Albany ซึ่งเป็นรีสอร์ทหรูที่ Sam Bankman-Fried ใช้อาศัยอยู่ในเพนต์เฮาส์มูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ จนกระทั่งเขาถูกจับกุม
ต่อมา เงินประมาณ 3.6 ล้านดอลลาร์ได้ถูกใช้เพื่อซื้อ Grand Hyatt โรงแรมระดับ 4 ดาวซึ่งเคยเป็นสถานที่รับรองราชวงศ์อังกฤษในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่าย 800,000 ดอลลาร์สำหรับการเข้าพักรีสอร์ทระดับ 5 ดาวอย่าง Rosewood อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น FTX ยังใช้เงินเกือบ 7 ล้านดอลลาร์ไปกับค่าอาหารและความบันเทิง โดยประมาณครึ่งหนึ่งของเงินก้อนนี้ถูกจ่ายให้กับบริการจัดเลี้ยง และเงินอีกเกือบ 4 ล้านดอลลาร์ก็หมดไปกับเที่ยวบิน
ขณะเดียวกัน ตามรายงานจาก Financial Times ของลอนดอน ยังเปิดเผยด้วยว่า FTX ใช้เงินมากกว่า 500,000 ดอลลาร์เพื่อเป็นค่าไปรษณีย์และการจัดส่งพัสดุต่าง ๆ โดย FTX ได้ทำข้อตกลงส่วนตัวกับผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศเพื่อส่งคำสั่งซื้อของ Amazon จากคลังสินค้าในไมอามี่ เนื่องจาก Amazon ไม่ได้มีบริการจัดส่งพัสดุไปยังบาฮามาส
นอกจากนี้ เอกสารที่ยื่นต่อศาลยังเสริมว่า FTX ได้มอบชุดรถยนต์และน้ำมันสำหรับพนักงานชาวบาฮามาสทุกคนอย่าง ‘ไม่จำกัด’ อีกทั้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะครอบคลุมการเดินทางไปสำนักงานทั่วโลก
ในเดือนธันวาคม อดีตพนักงานคนหนึ่งได้เปิดเผยถึงขอบเขตของค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยมากเกินไปของบริษัท โดยกล่าวว่า “มันเป็นเหมือนกับลัทธิ การที่บริษัทใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้นมันไร้ประสิทธิภาพอย่างน่าสมเพชจนน่าตำหนิ”
แม้ว่า FTX จะหมดเงินไปกับสิ่งต่าง ๆ ดังที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว FTX ยังบริจาคเงินจำนวนมากให้กับองค์กรการกุศล และองค์กรท้องถิ่นในบาฮามาสอีกด้วย แต่รายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 8 มกราคม ระบุว่าเงินบริจาคเหล่านี้บางส่วนอาจถูกส่งคืน
ที่มา: cointelegraph