เครือข่าย Polygon ได้ทำการทดสอบ zero-knowledge rollup ขั้นสุดท้ายเพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยี zkEVM ก่อนการรวมเข้ากับ Mainnet
โปรโตคอล Ethereum layer-2 scaling solution ของเครือข่าย Polygon กำลังดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยี zero-knowledge rollup ก่อนการรวมเข้ากับเครือข่าย Mainnet แบบเต็มรูปแบบ
เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Poltgon zkEVM ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปี โดยทีม Polygon Hermez โดยทางทีมงานยืนยันว่าได้ทำการทดสอบ zero-knowledge proofs มากกว่า 12,000 ครั้งบนเครือข่าย Testnet
นาย David Schwartz หัวหน้าโปรเจ็ค Polygon zkEVM และ PolygonID ได้เปิดเผยกับสื่อ Cointelegraph ว่า Layer 2 จะมีการพัฒนาและปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Ethereum มีความสามารถในการ Scaling ที่เปิดมากขึ้น
เขาได้อธิบายว่าการใช้ zero-knowledge rollup จะช่วยให้การทำงานของ Layer 2 มีเร็วที่มากขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้น
“ในที่สุดเราก็มี zkEVM อย่าง Polygon zkEVM ที่ทำให้ทุกอย่างเหนือว่า Ethereum Virtual Machine ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี zk-STARKs และ zk-SNARK”
จากข้อมูลของนาย David Schwartz เทคโนโลยี Polygon zkEVM ได้รวม Source code ของ zkProver ซึ่งมีความสามารถเทียบเท่า EVM โดยเขาอธิบายว่านี้เป็นความพยายามที่ท้าทายและคุ้มค่าที่สุดนับตั้งแต่ทีมของเขาพัฒนา zkEVM ขึ้นมา
เมื่อ 2 ปีก่อน ทีมงาน Polygon คาดว่าการพัฒนา zk rollups จะใช้เวลานานถึง 10 ปี ทีมงานอธิบายว่า zkEVM เป็นความท้าทายสุดท้ายที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการ Scaling และเพิ่มความเร็วของการทำงาน โดยสิ่งนี้จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้งานมากมายอย่างเช่น ค่าธรรมเนียมจะถูกลง
นอกจากนี้ทางสื่อ Cointelegraph ยังได้ถามถึงความแตกต่างของ Polygon zkEVM กับ ZK-SNARK และ ZK-STARK ที่มีบริษัท StarkNet เป็นเจ้าของ โดยหลัก ๆ แล้ว ZK-STARKS จะเพิ่มสามารถในการรวมหลายธุรกรรมเข้าด้วยกันแล้วทำการตรวจสอบเพียงครั้งเดียว
นาย Schwartz ได้ตอบกลับมาว่า ความแตกต่างที่สำคัญก็คือ zkEVM จะมุ่งเน้นไปที่การ Scaling ของ Ecosystem แต่ zk-rollup ตัวอื่น ๆ จะเน้นไปที่การ Scaling ธุรกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน VM ที่ต่างกัน
ก่อนหน้านี้นาย Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ออกมาบอกว่า zkEVM จะมีเป้าหมายในการพัฒนาอยู่ 2 อย่างก็ได้ ช่วยให้สามารถเกิดการพัฒนาบนเครือข่าย Ethereum ได้ง่ายขึ้น และช่วยให้การตรวจสอบมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Source: Cointelegraph