<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มหาวิทยาลัยชื่อดังในสหรัฐอเมริกาได้เปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อาจารย์กล่าวว่าหลักสูตร “การเขียนโปรแกรม Bitcoin” จะตามมาหลังจากหลักสูตร ‘Bitcoin’ โดยนักเรียนจะได้เรียนรู้วิธีการสร้าง “Bitcoin library ตั้งแต่เริ่มต้น”

หลักสูตร Bitcoin และ Cryptocurrency ยังมีเพิ่มขั้นอย่างรวดเร็ว โดยมหาวิทยาลัย Texas A&M ได้เปิดสอนหลักสูตร Bitcoin ให้กับนักศึกษากว่า 74,000 คน

ข่าวดังกล่าวถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 13 มกราคมโดยรองศาสตราจารย์ Korok Ray จากคณะ Mays Business School ของมหาวิทยาลัย Texas A&M ซึ่งจะเปิดการสอนหลักสูตร ‘Bitcoin Protocol’ ให้กับนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะ Mays Business ในเทอมหน้าในวันที่ 17 มกราคม

ศาสตราจารย์ Korok Ray ได้กล่าวบน Twitter ว่า การเขียนโปรแกรม Bitcoin จะเป็นไปตาม Bitcoin Protocol ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้การสร้าง Bitcoin library ตั้งแต่เริ่มต้น

ทางศาสตราจารย์เสริมว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการหลักสูตรของทางมหาวิทยาลัย

การขาดการศึกษาด้าน Ctyptocurrency ที่ดีจะทำให้เกิดการยอมรับที่ยากขึ้นในอนาคต โดยเขาได้อ้างอิงจากนาย Josh Cowell นักวิจัยด้านคริปโตผู้ที่แนะนำว่า เราสามารถปรับปรุงความรู้ทางด้านการเงินได้หากเราทำมันอย่างถูกต้อง

กฏหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ของเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency ก็ได้มีการเปิดสอนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Thomas Hook จากมหาวิทยาลัย University of Boston Law School ได้กล่าวกับสื่อ Cointelegraph ว่าขณะนี้ ได้มีการเปิดสอนหลักสูตร “Crypto Regulation” สำหรับนักเรียนที่สนใจในการเรียนรู้ว่านักกฏหมายที่เชี่ยวชาญด้านคริปโตและบริษัทคริปโตสามารถใช้ความรู้ในการต่อสู้กับความไม่แน่นอนด้านกฏระเบียบได้อย่างไร

“นั่นหมายถึงปัญหาต่าง ๆ ที่นักกฏหมายด้านคริปโตอาจจะเผชิญ รวมถึงแนวทางและข้อบังคับมากมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโต และปัญหาต่าง ๆ ที่บริษัทคริปโตทั่วโลกจะต้องเผชิญ”

มหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วโลกได้เปิดสอนหลักสูตร Cryptocurrency เช่น มหาวิทยาลัย Harvard University, สถาบัน Massachusetts Institute of Technology, มหาวิทยาลัย Oxford University, มหาวิทยาลัย National University of Singapore, มหาวิทยาลัย Cornell University และมหาวิทยาลัย University of California Berkeley

Source: Cointelegraph