<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกามุ่งหน้าขุด Bitcoin แทนการเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การขุด Bitcoin ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแม้ว่าจะมีข่าวโจมตีในหมูนักการเมืองและนักลงทุนบางส่วนก็ตาม โดยสภาการขุด BTC ที่ริเริ่มโดย Michael Saylor พยายามพิสูจน์หักล้างว่าการขุด BTC นั้นเป็นสิ่งที่ดี

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการขุด Bitcoin ได้ใช้พลังงานหมุนเวียนมากกว่า 60% ถึงแม้ว่าจะเป็นการขุดขนาดเล็กก็ตามแต่นี่ถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตามข้อมูลใหม่จาก MIT Technology Review ที่แบ่งปันโดย Saylor ผ่านทาง Twitter

อุทยานแห่งชาติ Virunga เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในโลกที่ตระหนักถึงศักยภาพของการขุด Bitcoin โดยนำมาสนับสนุนธรรมชาติ และกอริลล่าภูเขาที่ใกล้สูญพันธุ์ของอุทยาน 

ตามที่รายงานกล่าวถึงเหมือง Bitcoin ใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดยักษ์บนภูเขาเดียวกัน ซึ่งทำให้อุทยานแห่งชาติในตอนกลางของแอ่งคองโกเป็นป่าฝนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากอเมซอนมี คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังหลายพันเครื่องถูกเก็บไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ 10 ตู้ที่ตั้งอยู่กลางป่า

Bitcoin ช่วย The Park ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน

Emmanuel de Merode ผู้อำนวยการอุทยานวัย 52 ปี อธิบายว่า Virunga อยู่ในภูมิภาคที่ผันผวน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการทุจริตและการตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการลงทุนจากต่างประเทศนั้นหายากพอ ๆ กับโครงข่ายไฟฟ้าและรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

เนื่องจากการสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจากการระบาดของโรค เช่น อีโบลา และ โควิด-19 รวมถึงการลักพาตัวโดยกลุ่มกบฏ อุทยานแห่งนี้จึงถูกกดขี่อย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและต้องการเงินอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ de Merode ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่กับ Bitcoin

“เราสร้างโรงไฟฟ้าและคิดว่าเราจะสร้างเครือข่าย Bitcoin อย่างค่อยเป็นค่อยไป เราต้องหาทางออก ไม่งั้นเราคงเลิกเป็นอุทยานแห่งชาติไปแล้ว”

รายได้จากการขุด BTC ไม่เพียงแต่สำหรับใช้จ่ายเป็นเงินเดือนให้กับพนักงาน แต่ยังรวมถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน และสถานีสูบน้ำ รวมทั้งไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำอื่น ๆ ในอุทยานอีกด้วย

จากข้อมูลของ de Merode อุทยานแห่งชาติ Virunga เริ่มขุด Bitcoin ในเดือนกันยายน 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

“ครั้งหนึ่งเราเคยโชคดี โดยขายสินทรัพย์ดิจิทัลในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เมื่อ BTC ซื้อขายอยู่ที่ 44,000 ดอลลาร์ สิ่งนี้ทำให้ผู้อำนวยการอุทยานกำลังทำรายได้ประมาณ 150,000 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเทียบเท่ากับช่วงที่นักท่องเที่ยวบูม ๆ ด้วยซ้ำ”

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของ de Merode ได้กล่าวว่าการขุดทุกวันคือผลกำไรอย่างแท้จริงแม้ว่าตลาดจะตกอยู่ในช่วงตลาดหมีก็ตาม

“ดังนั้นไม่ว่า Bitcoin จะผันผวนในมูลค่ามากเพียงใด ตราบใดที่มันเป็นบวก มันก็ทำกำไรได้”