ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear and Greed Index) ของ Bitcoin ได้ขยับตัวไปอยู่ช่วงเป็นกลางแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังดัชนีนี้ได้ติดอยู่ที่ ‘ความกลัว’ อยู่นานหลายเดือน
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ดัชนี Fear and Greed Index ได้ฟื้นตัวมากลับมาอยู่ในโซนที่เป็นกลางอีกครั้งหนึ่งที่ระดับ 52 นับว่าเป็นระดับสูงที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ปี 2022 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากราคา BTC ได้เพิ่มขึ้นกว่า 24% ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ดัชนีความกลัวและความโลภได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ลากยาวนานกว่า 9 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ตั้งแต่นั้นมาตัวเลขก็อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 ในหมวด “กลัวสุดขีด” และนับเป็นครั้งความเชื่อมั่นที่อยู่ในช่วง “กลัวสุดขีด” ยาวนานที่สุดในช่วงกลางปี 2022 เลยก็ว่าได้
ดัชนีความกลัวและความโลภเป็นตัวชี้วัด “การเคลื่อนไหวและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากแหล่งข้อมูลต่างๆ” รวมถึงความผันผวนของราคา โมเมนตัม ปริมาณซื้อขายของตลาด สื่อโซเชียลมีเดีย ข้อมูล Google Trends และอื่นๆ
ข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้ร่วมกันเพื่อสร้างตัวเลขความเชื่อมั่นที่ตรงไปตรงมาเพื่อสรุปสถานะทางอารมณ์ของตลาด Bitcoin และ crypto
ดัชนีความกลัวและความโลภจะประกอบไปด้วยสถานะของตลาด 5 อารมณ์ด้วยกัน นับตั้งแต่ความกลัวสุดขีดไปจนถึงโลภมาก ซึ่งสถานะหลังนี้ไม่มีให้เห็นรับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021
โดยในขณะที่เขียน ดัชนีความกลัวและความโลภได้ร่วงกลับลงไปที่ 45 ซึ่งทำให้กลับเข้าสู่หมวด “ความกลัว” อีกครั้งซึ่งบ่งบอกว่าความเชื่อมั่นยังไม่กลับมาเต็มร้อย
ในขณะเดียวกันราคา Bitcoin ก็ได้พุ่งขึ้นติดต่อกันถึง 12 วัน โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นขึ้นมาราว ๆ 28% นับตั้งแต่ต้นปี 2023
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายคนระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดเป็นกับดักกระทิง ในขณะที่การปิดตลาดรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งทำให้นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าโมเมนตัมขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไป
Peter Brandt เทรดเดอร์มืออาชีพและกูรูด้านกราฟสรุปไว้เมื่อวันที่ 16 มกราคม โดยทวีตว่า:
“คนงี่เง่าทุกคนสามารถคาดเดาตลาดได้ ดังนั้นนี่คือคำทำนายแบบโง่ๆ ของผม ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่าตลาดใด ๆ จะทำอะไร $BTC”
Bitcoin มีการราคาเพิ่มขึ้น 2.2% ในช่วง 24 ชั่งโมงที่ผ่านมา ซื้อขายกันอยู่ที่ 21,1652 ดอลลาร์ ในขณะที่รายงาน อ้างอิงข้อมูลจาก CoinGecko
ที่มา : cointelegraph