<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อาจาร์นิติฮ่องกงหวั่น นักศึกษาใช้ ‘ChatGPT’ ช่วยเขียนรายงานด้านกฎหมาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ChatGPT โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้กลายเป็นประเด็นดราม่าเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว หลังจากการที่ AI ได้มีส่วนช่วยในการบอกคำตอบของข้อสอบวิชากฎหมายส่วนที่เป็นข้อสอบปรนัย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยที่ได้ทำการทดลองใช้โปรแกรมนี้กับข้อสอบ และคาดการณ์ว่า ChatGPT อาจมีส่วนช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสอบใบอนุญาตทนายความได้ในอนาคต

ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ทั้งยินดีและวิตกกังวลกับ ChatGPT นับตั้งแต่การเปิดตัวของโปรแกรมเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยโปรแกรมนี้ ได้ทำการตอบคำถามจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มี รวมไปถึงข้อมูลทางกฎหมายด้วย

Daniel Linna ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายและเทคโนโลยีจาก Northwestern University Pritzker School of Law กล่าวว่า ศาสตราจารย์ด้ายนิติศาสตร์ส่วนมากมีความกังวลว่า นักศึกษาจะส่งงานที่ได้รับมอบหมายให้ ChatGPT ทำมากกว่าลงมือทำด้วยตัวเอง แม้ว่าศาสตราจารย์บางส่วนจะมอง ChatGPT ว่าเป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนกฎหมายก็ตาม และได้กล่าวเตือนว่า นักศึกษาในภาควิชานิติศาสตร์อาจไม่ได้มีการเตรียมตัวสำหรับการทำงานด้านกฎหมายที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต

Jake Heller ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Casetext บริษัทกฎหมายด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า สถาบันกฎหมายต่าง ๆ ควรสนับสนุนให้นักศึกษาใช้ ChatGPT และทำความคุ้นชินกับเครื่องมือที่มีความใกล้เคียงกันในการร่างเอกสารและเสนอแนวความคิดต่าง ๆ

“มันไม่ได้มีความแตกต่างไปมากกว่าการเข้าไปในหอสมุดนิติศาสตร์ในช่วงค่ำแล้วพูดว่า ‘ฉันกำลังหาวิธีจัดการกับแนวคิดนี้อยู่’” Jake Heller กล่าว “มันเหมือนกับการใช้เครื่องคิดเลขในวิชาคณิตศาสตร์”

Andrew Perlman คณบดีจาก Suffolk University Law School กล่าวว่า เขาต้องการเห็นชั้นเรียนวิชาวิจัยและการเขียนทางกฎหมายของนักศึกษาปี 1 มีการศึกษาครอบคลุมไปถึงการใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT เช่นเดียวกับการสอนให้นักศึกษาทำการวิจัยโดยใช้ ChatGPT เป็นตัวช่วยที่ Westlaw และ LexisNexis

“เราอยู่ในจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจมาก” Andrew Perlman กล่าว “มันไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเลยหากผู้เชี่ยวชาญในอนาคตถูกคาดหวังให้ใช้แชทบอตหรือเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อเขียนร่างกฎหมาย”

ChatGPT อาจจะยังไม่ได้มีความซับซ้อนมากพอที่จะทำให้นักศึกษากฎหมายได้เกรด A โดยไม่ทำงานอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ Daniel Linna กล่าว  

ในเอกสารวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในกานใช้ ChatGPT 3.5 ในการทำข้อสอบด้านกฎหมาย Daniel Martin Katz ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจาก Chicago-Kent College of Law และ Michael Bommarito จาก Michigan State University College of Law พบว่า ChatGPT สามารถตอบคำถามในข้อสอบ Multistate Bar Exam ถูกถึงครึ่งหนึ่ง ในขณะที่มนุษย์สามารถทำข้อสอบได้ถูกราว 68%

Josh Blackman ศาสตรจารย์ด้านกฎหมายจาก South Texas College of Law Houston ได้กล่าวขอให้ศาสตราจารย์ต่าง ๆ ทบทวนการให้ข้อสอบ take-home ในบล็อคล่าสุดบน Volokh Conspiracy ของเขาว่า

“เทคโนโลยีนี้ควรสร้างความหวาดกลัวให้แก่สถาบันต่าง ๆ” เขาเขียน ระบุว่า ChatGPT ไม่สามารถถูกตรวจจับโดยซอร์ฟแวร์การตรวจจับการลอกเลียนแบบได้

Jake Heller คาดการณ์ว่า สถาบันกฎหมายจะต้องเริ่มแก้จรรยาบรรณของพวกเขาในไม่ช้า และศาสตราจารย์จะต้องชี้แจงว่า การส่งเอกสารที่เขียนขึ้นโดยแชทบอทมีความคล้ายคลึงกับการขโมยความคิด

ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายอาจจะเริ่มขอให้นักศึกษาเปิดเผยเครื่องมือเทคโนโลยีเฉพาะทางที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ เขากล่าวเสริม

“ด้วยเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้จะนำไปข้อถกเถียงมากมายที่จะเกิดขึ้นตามมาในไม่ช้า”


ที่มา: Reuters