<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ใช้ Binance จะไม่สามารถซื้อขายคริปโตผ่าน SWIFT ในยอดที่ต่ำกว่า $100K ได้ เริ่ม 1 ก.พ.นี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา Binance ได้ส่งอีเมลถึงชาว Binancians ทุกคนว่า การให้บริการซื้อขายสินทรัพย์คริปโตผ่าน SWIFT อาจต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากผู้ใช้บัญชีธนาคารที่ถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะต้องการซื้อหรือขาย Crypto ด้วยมูลค่าที่สูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป ผ่านระบบการชำระเงิน SWIFT ซึ่งจะมีผลบังคับในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

อย่างไรก็ตาม Binance เน้นย้ำว่า ลูกค้าจะยังคงสามารถใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตเพื่อซื้อหรือขายสกุลเงินดิจิทัลได้ ทั้งนี้การโอนเงินผ่านธนาคารที่ไม่ใช่ USD จะยังคงสามารถดำเนินการได้ผ่านระบบการชำระเงิน SWIFT ได้เช่นเดิม รวมไปถึงการชำระเงินและการรับเงินจาก third-party exchanges จะยังคงได้รับการประมวลผลธุรกรรม

Binance กล่าวว่า ตอนนี้พวกเขากำลังแสวงหาพันธมิตร SWIFT (USD) รายใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของบริการสำหรับการโอนเงินผ่านธนาคารในอนาคต ทั้งนี้ทาง Binance ได้กล่าวเสริมว่า นี่เป็นการตัดสินใจของหุ้นส่วนธนาคาร และ Binance จะไม่ใช่แพลตฟอร์มการซื้อขายแห่งเดียวที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง

“นี่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อลูกค้าเว็บเทรด Crypto ทั้งหมด โปรดทราบว่าจนกว่าเราจะสามารถหาทางออกอื่นได้ คุณอาจไม่สามารถใช้บัญชีธนาคารของคุณเพื่อซื้อหรือขาย Crypto ที่มีมูลค่าน้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์ ด้วย USD ผ่าน SWIFT หลังจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023”

จดหมายจาก Binance ถึงผู้ใช้รายย่อย เมื่อวันที่ 21 มกราคม

Binance กล่าวเสริมว่า การโอนเงินผ่าน SWIFT จะยังคงสามารถดำเนินการได้ ถ้าหากเป็นการโอนเงินผ่านธนาคารที่ไม่ใช่ USD เช่น สกุลเงินยูโร ขณะเดียวกัน Binance ก็ได้ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อ “บัญชีขององค์กร”

พันธมิตรด้านการธนาคารที่เกี่ยวข้องกับ SWIFT คือ Signature Bank โดยตามรายงานข่าวของ Bloomberg ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 มกราคมระบุว่า ธนาคารได้กำหนดวงเงินธุรกรรมขั้นต่ำไว้ที่ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อพยายามลดความเสี่ยงในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

การยุติบริการชำระเงินของ Binance ในไม่ใช่ครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้แพลตฟอร์มเคยได้ระงับการโอนเงินในรูปแบบของเหรียญคริปโตมาแล้ว ซึ่งเว็บเทรดเพิ่งได้ระงับการฝาก USDT และ USDC ที่ใช้ Solana ชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน  2022 อีกทั้งยังระงับการฝากและถอน Ether (ETH) และ Wrap-Ether (wETH) ชั่วคราวเป็นเวลาประมาณ 10 วันก่อนการอัปเกรด Ethereum Merge อีกด้วย

ที่มา: cointelegraph