<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘ท็อป จิรายุส’ กล่าวเตือน “ปี 2023 อาจเป็นปีที่เศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 24 มกราคม สำนักข่าว InfoQuest ได้สัมภาษณ์ คุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา CEO และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Bitkub เจ้าของกระดานเทรดชื่อดังของไทย ในรายการ Crypto Insight โดยถามคำถามว่า ทิศทางของตลาด Crypto ในปี 2023 จะเป็นอย่างไรต่อไป ภายหลังจากผ่านหายนะต่าง ๆ ทา

คุณท็อปมองว่า ปี 2022 ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับตลาด Crypto เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงเศรษฐกิจโลกด้วย ทั้งยังจะส่งผลมาถึงปีนี้ด้วย 

โดยคุณท็อปกล่าวว่า สภาพการณ์ของโลกช่วงนี้ เป็นช่วงที่เรียกว่า “Perfect Storm” ซึ่งเป็นช่วงที่มีทั้งสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะจบลง การมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี จากการที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ทำ QT (Quantitative Tightening) เพื่อนำเงินออกจากตลาด เพื่อหวังลดอัตราเงินเฟ้อให้เหลือเพียง 2% ภายในปี 2024 เป็นผลมาจากในช่วงวิกฤตโควิด-19 รัฐบาลประเทศต่าง ๆ เร่งผลิตเงินออกมาหวังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ 

นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ยังได้ปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก แม้ว่าในปีที่แล้ว เทคโนโลยีจะมีการก้าวกระโดดเป็นอย่างมากก็ตาม ดังนั้นการปรับลดอัตราภาษี จึงอาจจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ หากรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ไม่สามารถลดอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ต้องการได้

คุณท็อปเชื่อว่ายุคนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นยุค “Global Winter” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Crypto Winter เพียงอย่างเดียว จากการที่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างรุนแรง ถึงขั้นที่ธนาคารชื่อดังของอังกฤษออกมาประกาศว่า ปี 2023 นี้ จะเป็นปีที่แย่ที่สุดในรอบ 40 ปีเลยทีเดียว

คุณท็อปจึงแนะนำเหล่านักลงทุน ไม่ว่าจะอยู่ในวงการ Crypto หรือไม่ก็ตามว่า ขอให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ด้วยการเก็บเงินสดให้ได้มากที่สุด อย่าพึ่งลงทุน อย่าพึ่งใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น หากต้องการซื้อสิ่งที่มีมูลค่ามาก คุณท็อปแนะนำให้ซื้อหลังจากปี 2024 และควรรักษางานให้ได้นานที่สุด เนื่องจากปีที่ผ่านมา มีผู้คนตกงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับประเทศไทย แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวที่ประเทศไทยพึ่งพาจะฟื้นตัวในระดับที่ดี และมีแนวโน้มว่าจะจะดีอีกขึ้นในปีนี้ แต่จากข้อมูล เปิดเผยว่า 40% ของ GDP โลกมาจากการพึ่งพาอาศัยและการค้าขายระหว่างประเทศต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเองได้มีการการพึ่งพาเศรษฐกิจจากภายนอกมากกว่าที่คาด และมีโอกาสที่การถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งจะเชื่อมมาถึงประเทศไทยได้เช่นเดียวกับการแพร่ระบาดของโรค

คุณท็อปยังกล่าวว่าด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำในปีนี้คือ การไม่ก่อหนี้ โดยในขณะนี้ ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการชะงักทางเศรษฐกิจได้

นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องมีสภาพคล่องทางการเงินสูง เพราะในช่วงนี้ ผู้คนอาจจะมีโอกาสได้เห็นว่าบริษัทเหล่านั้นมีสภาพเป็นอย่างไร ตามที่ Warren Buffet มหาเศรษฐีในตำนาน กล่าวว่า “เมื่อน้ำขึ้น ทุกอย่างจะดูดีไปหมด แต่เมื่อน้ำลง จะเห็นว่าใครแก้ผ้าอยู่”

ปี 2023 จึงเป็นปีที่จำเป็นต้องมีการรัดเข็มขัด เพื่อรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่อาจจะเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี