<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘ท๊อป จิรายุส’ ยืนยัน ! ปีหน้าคือปีทองของตลาด Crypto พร้อมชวนจับตาดู  Bitcoin Halving ครั้งถัดไป

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา คุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งบริษัท Bitkub กระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดของไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ Crypto Insight ในประเด็นเกี่ยวกับ “ปีทองของ Crypto” ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากปีหน้าจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า Bitcoin Halving ซึ่งจะทำให้ราคาเหรียญ Crypto พุ่งขึ้นอย่างมหาศาล

“Crypto จะมี Cycle ของมัน และทุก ๆ 4 ปีจะเกิด ‘ปีทอง’ ของ Cycle นั้น ๆ และมันจะเกิดขึ้นหลังจาก Bitcoin Halving” คุณท๊อปกล่าว

คุณท๊อปอธิบายว่า Bitcoin Halving คือการที่จำนวนของ Bitcoin ที่ออกมาใหม่ลดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี ซึ่งหลังจากเกิดการ Halving ไปประมาณ 6 เดือน ราคา Crypto จะปรับตัวขึ้น ตัวอย่างเช่น การเกิด Halving ครั้งแรกเมื่อช่วงประมาณกลางปี 2012 หลังจากผ่านไป 6 เดือน ราคาก็ได้ปรับตัวขึ้นจาก 11 ดอลลาร์ เป็น 1,150 ดอลลาร์ในช่วงปลายปีนั้น

คุณท๊อปอธิบายเสริมด้วยว่าช่วง Bull Run จะยังคงอยู่ประมาณหนึ่งปีหลังจากนั้น ก่อนที่ราคาจะร่วงลงอีกครั้ง นอกจากนี้ คุณท๊อปได้ชวนสังเกตด้วยว่า ในขณะที่ราคา Bitcoin ร่วงลงไปหลังจากช่วง Bull Run มักจะมีเหตุการณ์วิกฤตครั้งใหญ่ของตลาด Crypto เข้ามาร่วมด้วยอยู่เสมอ

คุณท๊อปคาดการณ์ว่าการเกิด Bitcoin Halving ครั้งถัดไป จะอยู่ในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมของปี 2024 ถ้าหากกราฟเดินตาม pattern ในประวัติศาสตร์ และสำหรับสาเหตุที่ปีหน้าเป็นปีที่น่าจับตามองนั้น คุณท๊อปกล่าวว่า

“ทั้ง micro factors และ macro factors วิ่งเข้าไปที่ปีเดียวกัน คือ 2024 โดย macro factors คือ การที่เงินเฟ้อจะต้องลงมาที่ 2% ให้ได้ภายในปี 2024 หมายความว่าถ้าเงินเฟ้อลงมา รัฐบาลก็ต้องอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบ คนก็จะมีเงินในกระเป๋าเยอะขึ้น ใช้จ่ายเยอะขึ้น เศรษฐกิจกลับมาคึกคักเหมือนเดิม”

แม้ว่าปีหน้าจะเป็นปีทองของตลาด Crypto ที่หลาย ๆ คนรอคอย อย่างไรก็ตาม คุณท๊อปก็ได้เตือนว่า เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วจะเกิดการชะลอตัว และจะเกิด Natural Selection ขึ้น กล่าวคือ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะค่อย ๆ กำจัดธุรกิจที่ไม่โปร่งใสออกไป

นอกจากนี้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีลักษณะดังกล่าว คุณท๊อปมองว่ากฎหมายจะมีความทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งผู้คนจะมีแรงจูงใจ และมีความตระหนักในอุตสาหกรรม Crypto มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ในขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานจะมีการพัฒนามากขึ้น เช่น การป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่จะมีความแข็งแรงมากขึ้น การออกใบอนุญาตตามการพัฒนาของเทคโนโลยี ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เม็ดเงินจากสถาบันไหลเข้าสู่อุตสาหกรรม Crypto มากขึ้น โดยคุณท๊อปเชื่อว่ากระดานเทรดที่ถูกกฎหมายจะกลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว

ในอนาคต ทุกสิ่งทุกอย่างจะได้รับการ Tokenized คือเราทุกคนจะสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างในรูปแบบของโทเค็น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เศรษฐกิจมีสภาพคล่องสูง และในช่วงเวลานั้น คุณท๊อปมองว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่เหมาะสม เพื่อให้เม็ดเงินจากสถาบันสามารถไหลเข้ามาในอุตสาหกรรม Crypto ได้มากกว่าในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรม Crypto ในประเทศไทย