<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

OpenAI เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่สามารถระบุว่า ‘ข้อความไหนบ้าง’ ที่ถูกเขียนขึ้นโดย ChatGPT

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

OpenAI ได้เปิดตัวเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุได้ว่าข้อความนั้นน่าจะเขียนโดยมนุษย์หรือ AI มากกว่ากัน อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิต ChatGPT ได้ออกมาเตือนด้วยว่า การทดสอบ Voight-Kampff ที่เทียบเท่ากับ Blade Runner อาจเกิดข้อผิดพลาดได้เช่นกัน

เครื่องมือใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ ประกอบด้วยกล่องข้อความที่ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความอย่างน้อย 1,000 ตัวอักษร จากนั้นเครื่องมือก็จะตรวจสอบว่าข้อความดังกล่าวเขียนขึ้นโดยมนุษย์หรือ AI

ผู้เขียนบทความบนเว็บไซต์ engadget ได้ทดสอบเครื่องมือดังกล่าวโดยให้ ChatGPT เขียนเรียงความเกี่ยวกับรูปแบบการย้ายถิ่นของนก ซึ่งเครื่องมือตรวจจับอธิบายว่า “อาจเขียนขึ้นโดย AI” ในขณะเดียวกันก็อธิบายถึงบทความหลายชิ้นที่เขียนโดยมนุษย์ว่า “ไม่น่าจะเขียนขึ้นโดย AI”

แม้ว่าเครื่องมือนี้จะตั้งค่าให้ตรวจจับสถานะของข้อความในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้ที่ทำการทดสอบดังกล่าวได้แนะนำว่าเครื่องมือนี้ค่อนข้างมีความแม่นยำ ในขณะที่ทางผู้พัฒนาอย่าง OpenAI กลับเตือนว่าอย่าใช้เครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียวในการระบุความถูกต้องของเนื้อหา อีกทั้งยังอธิบายด้วยว่าเครื่องมือดังกล่าวทำงานได้ดีที่สุดสำหรับข้อความ 1,000 ตัวอักษรขึ้นไปเท่านั้น

OpenAI ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสถาบันการศึกษาหลังจากเปิดตัว ChatGPT เมื่อเดือนพฤศจิกายน เพราะในบางครั้ง AI ดังกล่าวก็สามารถจำลองภาษาเขียนตามธรรมชาติของมนุษย์ และสามารถเขียนเรียงความได้ภายในไม่กี่วินาที โดยเป็นงานเขียนที่มาจากข้อความง่าย ๆ ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป

แม้ว่า ChatGPT จะสามารถช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ได้มากมาย ในขณะเดียวกัน AI ดังกล่าวก็ได้สร้างช่องทางการโกงรูปแบบใหม่ที่ดึงดูดใจแก่นักเรียนและนักศึกษา จนเป็นผลให้โรงเรียนรัฐหลายแห่งในนิวยอร์กสั่งห้ามไม่ให้นักเรียนใช้งานบ ChatGPT ผ่านเครือข่าย WiFi และอุปกรณ์ของโรงเรียน

ปัจจุบัน ChatGPT เป็น AI ที่สามารถสื่อสารด้วยการใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ Google, Baidu และบริษัทอื่น ๆ ต่างก็กำลังพัฒนา AI ของตนเพื่อก้าวสู่การเป็นคู่แข่งของ ChatGPT ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ AI อาจจะเป็นสาเหตุของปัญหาด้านจริยธรรม อีกทั้งยังถือเป็นเรื่องน่าสนใจด้วยว่ามนุษย์จะสามารถยับยั้งชั่งใจไม่นำ AI ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรได้นานแค่ไหน

ที่มา: engadget