Bitcoin มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำอำนาจกลับมาสู่มือประชาชน และนอกจากนี้การลงทุนใน Bitcoin อาจจะทำให้เข้าใกล้อิสรภาพทางการเงินมากขึ้น แต่จะทำยังไง?
ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนสนใจ Bitcoin ด้วยเหตุผลหลายประกาศ ตั้งแต่สนใจการแก้ไขระบบเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเงิน Fiat และการเข้าถึงระบบการเงินที่ไม่มีธนาคาร ไปจนถึงสนใจ Bitcoin เพราะต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่เห็นว่า Bitcoin เป็นประตูสู่อิสระภาพทางการเงินท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ระบบธนาคารแบบดั้งเดิมได้กลายเป็นเครื่องมือของรัฐบาลกลางในการเข้าถึงระบบการเงินครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตต่าง ๆ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สงครามยูเครน-รัสเซียกลายเป็นกรณีศึกษาสำหรับการใช้งาน Cryptocurrency ในการช่วยให้ผู้ลี้ภัยสามารถเข้าถึงเงินทุนโดยไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยธนาคาร
ตามที่ Satoshi Nakamoto ตั้งใจไว้ เขาต้องการที่จะให้ Bitcoin นำอำนาจกลับมาสู่มือประชาชน ซึ่งหมายความว่าจะไม่สามารถมีข้อบังคับหรือการแบนใด ๆ ที่จะสามารถหยุดการใช้งาน Bitcoin เป็นเงินได้
HODL
ความผันผวนที่รุนแรงของ Cryptocurrency และอารมณ์ของนักลงทุนทำให้นักลงทุนจำนวนมากต้องขาดทุนไปกับมัน แต่สิ่งที่หลายคนไม่เข้าใจก็คือ Bitcoin นั่นต่างจาก Cryptocurrency และผู้ที่เข้าใจ Bitcoin มักจะแนะนำให้ถือสินทรัพย์ในระยะยาว
ข้อมูลจาก UpMyInterest พบว่าการถือ Bitcoin มีผลตอบแทนเฉลี่ย 93.8% ต่อไป แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสขาดทุนถึง 72.6%
Dollar-Cost-Averaging หรือ DCA
เมื่อมองว่า Bitcoin จะมีกำไรในระยะยาว นักลงทุนส่วนมากมันจะใช้กลยุทธ์การ DCA หรือก็คือการจัดเงินไว้ส่วนหนึ่งในการลงทุนใน Bitcoin เป็นประจำทุกเดือน
ในขณะที่เอลซัลวาดอร์ถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังจากทำให้ Bitcoin ถูกกฏหมายท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง แต่ประเทศนี้ก็สามารถนำกำไรที่ได้จาก Bitcoin ไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับการสร้างโรงพยาบาล โรงเรียน และอื่น ๆ
ในช่วงที่ตลาดกระทิงสิ้นสุดในปี 2022 นาย Nayib Bukele ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ได้เปิดตัวกลยุทธ์ที่คล้ายกับการ DCA โดยประเทศจะทำการซื้อ Bitcoin จำนวน 1 BTC ทุกวัน
หากอ้างอิงข้อมูลจากทาง TradingView พบว่าเมื่อย้อนกลับไปในช่วงที่นาย Bukele ประกาศแผนดังกล่าว Bitcoin ในช่วงนั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 16,600 ดอลลาร์
การใช้ Self-Custody
เมื่อพูดถึงการถือ Bitcoin ในระยะวาง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การอย่างไว้ใจคนอื่นนอกจากตัวเอง การที่นักลงทุนถือสินทรัพย์ไว้ในกระดานเทรดเป็นการอนุญาติให้คนอื่นสามารถควบคุมสินทรัพย์ของเราได้ ดังนั้นการมี Private Key เป็นของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการถือ Bitcoin
นับตั้งแต่เหตุการณ์ของกระดานเทรด FTX เกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนมากหันมาใช้ Self-Custody Wallet นักลงทุนที่ถูกกระดานเทรดขโมยเงินได้ตระหนักถึงการใช้กระเป๋าของตนเอง ดังนั้นการเก็บ Private Key ไว้ที่ตัวเอง ผ่านการใช้งาน Hardware/Software/Physical Wallet จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าถึงอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง
ผลกระทบจากเหตุการณ์การล้มละลายของกระดานเทรด FTX ทำให้กระดานเทรดส่วนใหญ่ออกมาพิสูจน์ว่าเงินของลูกค้ายังคงปลอดภัย และเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ากระดานเทรดจะไม่เจอปัญหาสภาพคล่อง
แม้ว่าการใช้งาน Hardware Wallet นั่นจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง แต่ผู้ใช้ก็สามารถเลือกเก็บ Private keys ในรูปแบบของตนเองได้ อย่างเช่นเขียนไว้บนกระดาษ
สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นไม่ว่าจะเป็นการ HODL, DCA และการใช้ Self-custody wallet เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้รับอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม วิธีที่จะทำให้ไปถึงจุดนั้นไม่ได้มีแค่นี้เท่านั้น ผู้ใช้งานสามารถใช้วิธีต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของตนเองได้
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นแนวทางการใช้ Bitcoin เป็นเครื่องมือในการช่วยให้ได้รับอิสรภาพทางการเงินเท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Source: Cointelegraph