Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้ประกอบการคริปโตมั่นใจว่า Ethereum จะไม่ถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาแน่นอน
ก่อนหน้านี้ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยี บล็อกเชน ConsenSys ได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์กับสื่อในงาน Web3 Building Blocks 23
โดยเมื่อเขาถูกถามว่า ETH สามารถถูกจัดให้อยู่ประเภท ‘หลักทรัพย์’ ในสหรัฐฯ ได้หรือไม่ หลังจากที่ Ethereum เปลี่ยนไปใช้รูปแบบฉันทามติ Proof-of-Stake (PoS) Lubin กล่าวว่า:
“ผมคิดว่าเป็นไปได้และจะมีผลกระทบเช่นเดียวกัน กับการที่ Uber ถูกทำให้ผิดกฎหมาย”
“จะคนไม่เห็นด้วยอย่างมากและไม่ใช่แค่ชุมชน crypto เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักการเมืองและหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ” เขากล่าวเสริม
ในเดือนกันยายน Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ส่งสัญญาณเตือนว่า การเปลี่ยนผ่านของบล็อกเชนเป็น PoS อาจทำให้ ETH ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานกำกับดูแล
Gensler เชื่อว่าการ staking เหรียญ Crypto ทำให้ “นักลงทุนทั่วไป” คาดหวัง “ผลกำไรจากความพยายามของผู้อื่น”
Lubin กล่าวว่าเขาเป็นตัวแทนของชุมชนคริปโตในการหารือกับ SEC และ Commodity Futures Trading Commission “มาเป็นเวลาหลายปี”
เขากล่าวว่าเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลกำลัง “พยายามคิดว่าโทเค็นคืออะไร”
“พวกเขาคิดในตอนนั้นว่า ทุกอย่างคือหลักทรัพย์ – ผมคิดว่า – ผมช่วยให้พวกเขาเข้าใจอย่างมากว่าโทเค็นจำนวนมากไม่ใช่หลักทรัพย์ จากนั้นพวกเขาก็จากไป และตอนนี้ Gary และทีมของเขาก็คิดว่าเกือบทุกอย่างเป็นหลักทรัพย์”
อย่างไรก็ตาม Lubin เชื่อว่า ETH ยังมี “การกระจายอำนาจที่เพียงพอ” และชี้ไปที่ “กรณีการใช้งานจำนวนมากที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เลย”
Lubin กล่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่อีกแง่มุมหนึ่งของ Ethereum มากขึ้นในขณะนี้ โดยสังเกตว่าวงในที่เขารู้จักในวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า “หน่วยงานกำกับดูแลกำลังเพ่งเล็ง Stablecoins อยู่ในตอนนี้”
ในโพสต์ Twitter ของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ Brian Armstrong ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Coinbase ตอบโต้ “ข่าวลือ” ที่ ก.ล.ต. กำลังคิดที่จะสั่งห้ามผู้บริโภครายย่อยจากการ staking เหรียญ crypto
“การ Staking ไม่ใช่การกำกับดูแลหลักทรัพย์” เขากล่าว และเสริมว่ามันจะเป็น “เส้นทางที่น่ากลัวสำหรับสหรัฐฯ” หากกฏหมายสั่งห้ามการ staking ผ่านร่าง เนื่องจากเขามองการ Staking นั้นเป็น “นวัตกรรมที่สำคัญมากในวงการ crypto”
“หวังว่าเราจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเผยแพร่กฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมนี้ และหาวิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผล ซึ่งนี่จะช่วยปกป้องผู้บริโภคในขณะที่รักษานวัตกรรมเอาไว้ได้ต่อไป” Armstrong กล่าว
ที่มา : cointelegraph