ดูเหมือนว่าหลายหน่วยงานยักษ์ใหญ่ในโลกนี้ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ในปี 2023 นี้ คือปีที่โลกจะก้าวเข้าสู่ยุค Global Recession หรือภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยครั้งใหญ่ที่ตลาดทุกแห่งกลายเป็นตลาดหมี ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่คนส่วนมากหลีกเลี่ยงจากการลงทุน และเดินหันหลังให้กับตลาดกัน
อย่างไรก็ตาม คุณพอล ภัทรพล นักลงทุนพันล้านจากช่อง Money Matters ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ทำไมคนรวยยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดจะอยู่ในสภาวะถดถอย” ซึ่งมุมมองของคุณพอลนั้นมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงอยากพาทุกคนมาดูกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้เศรษฐีเหล่านั้นมองว่าช่วงนี้เหมาะแก่การลงทุน
1. ของดีราคาถูก
หลังจากที่ Fed ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ ตามหลักแล้วเมื่อดอกเบี้ยขึ้น ราคาทรัพย์สินทั่วโลกก็จะถูกลง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโต และอื่น ๆ เนื่องจากคนจะนำเงินไปฝากธนาคารเพื่อให้มีความปลอดภัยทางการเงินมากกว่า หรือที่เรียกว่าย้ายเงินจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงไปยังพื้นที่เก็บเงินที่มีความเสี่ยงน้อยลง
ทั้งนี้ จนกว่าเงินเฟ้อจะลดลงมาจนถึง 2% ตามเป้าหมาย ก็อาจจะต้องมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้ง ดังนั้นถ้าตราบใดก็ตามที่ดอกเบี้ยยังคงพุ่งสูงขึ้นอยู่ สถานการณ์ของสินทรัพย์อื่น ๆ ก็จะยังคงดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ขณะเดียวกัน หลายคนก็จะสังเกตเห็นกันแล้วว่าราคาสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงต่าง ๆ มีราคาถูกกว่าราคา all time high มาก ๆ ในช่วงเวลาเพียง 1 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงถือเป็นช่วงที่เศรษฐีเห็นว่าสินทรัพย์ต่าง ๆ ราคาถูกจนคุ้มค่าที่จะแห่เข้าลงทุนกันอย่างแหลกลาญ
2. Reinvestment
หลังจากได้เงินปันผลจากการลงทุนขณะที่ Fed กำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนบางส่วนนำเงินก้อนนี้ไปฝากธนาคาร ขณะที่บางส่วนนำเงินมาลงทุนต่อในสินทรัพย์เดิม
การนำเงินปันผลมา Reinvest ในสินทรัพย์เดิมนั้น ในระหว่างทางอาจมีติดลบบ้าง แต่ถ้าในระยะยาว อาจได้ผลตอบแทนมากกว่าที่ติดลบก็เป็นไปได้ ดังนั้น ระหว่างการนำเงินไปฝากธนาคารเพิ่มรับดอกเบี้ย 2% ต่อปี กับการลงทุนในหุ้นตัวเดิมเพื่อให้ได้เงินกลับมา 5% แน่นอนว่าเศรษฐีหลายคนคงเลือกอันหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
3. หลังตลาดหมีคือตลาดกระทิง
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ตลาดหมีกับตลาดกระทิงจะเกิดขึ้นสลับกันไปเสมอ แต่ถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่าช่วงตลาดหมีมักจะสั้นกว่าช่วงตลาดกระทิง ดังนั้นถ้าหากนักลงทุนแบบ VI เข้าใจจังหวะของตลาด ก็จะสามารถจับจังหวะของการลงทุนได้ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับวิธีหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทั่วไปนั้น คือการ DCA โดยไม่ต้องสนใจว่าตลาดจะเป็นหมีหรือกระทิง เพราะสุดท้ายแล้วผลตอบแทนในระยะยาวจะดีกว่าการฝากเงินในธนาคารเพียงอย่างเดียวแน่นอน
4. ลงทุนแบบ All Weather Portfolio
อีกการลงทุนที่ได้รับความนิยม คือ การลงทุนแบบ All Weather Portfolio ซึ่งเป็นการลงทุนในหลาย ๆ สินทรัพย์กระจายกันไป เพราะทุกสินทรัพย์จะมีช่วงที่ดีและช่วงที่แย่เสมอ ดังนั้นการลงทุนกระจายในสินทรัพย์ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ก็เป็นอีกวิธีดี ๆ ในการการปกป้องให้ผลตอบแทนที่ได้รับนั้นดูไม่แย่จนเกินไป
ตัวอย่างเช่น ถ้าช่วงนี้หุ้นติดลบหนัก จนสร้างผลตอบแทนได้ไม่ดีเท่าทองและ Crypto การลงทุนในหุ้นอย่างเดียวก็อาจทำให้ติดลบทั้งพอร์ต จนผลตอบแทนที่ได้รับนั้นน้อยกว่าการกระจายลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมาทั้ง 4 ข้อนี้ คือเหตุผลว่าทำไมปี 2023 คนรวยยังลงทุน แม้ว่าตลาดจะอยู่ในสภาวะถดถอยก็ตาม ทั้งนี้ ไม่ว่าจะลงทุนในรูปแบบใด สิ่งสำคัญที่ต้องมีอยู่เสมอคือการมีวินัยในการลงทุน ศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งลงทุนในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด