แม้ว่าการล่มสลายของ FTX เมื่อปี 2022 จะผ่านมานานกว่าหลายเดือนแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบของเหตุการณ์ในครั้งนั้นยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ในทุก ๆ ที่ของอุตสาหกรรม Crypto และหนึ่งในนั้นก็ไม่พ้นตลาด Crypto ไทย จนทำให้นักเทรดและนักลงทุนชาวไทยหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าควรเชื่อมั่นในกระดานเทรดต่อไปดีหรือไม่
ข้อมูลจาก CoinGecko พบว่า วอลลุ่มเทรด Crypto บนแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยได้ทรุดตัวลงถึง 79% เมื่อปีที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่ตึงตัวขึ้นและข่าวอื้อฉาวที่กัดกร่อนความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรม Crypto
ท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อกระแสข่าวการล่มสลายของเว็บเทรด FTX นักลงทุน Crypto ในไทยบางคนก็ได้เริ่มตั้งข้อสังเกตว่า FTX ล้มละลายจากการขาดสภาพคล่อง ดังนั้นการเก็บ Crypto ในกระดานเทรดไทยอย่าง Bitkub อาจปลอดภัยกว่า เนื่องจากกระดานเทรดในไทยมีกฎหมายควบคุมที่เข้มงวด
ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวนั้น ได้แก่กฎที่ว่า กระดานเทรดในไทยจะไม่สามารถเปิดเทรด margin / futures/ options / perpetuals / cfds / derivatives ต่าง ๆ ได้ และจำเป็นต้องเก็บเงินของลูกค้าแยกส่วนให้ชัดเจน รวมทั้งต้องมีการเก็บทุนสำรอง 90% เอาไว้ใน cold storage เพื่อป้องกันการแฮ็กอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน วอลลุ่มเทรดบนแพลตฟอร์ม Bitkub ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวจนแตะ 1.39 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ Binance กระดานเทรด Crypto ระดับโลก ยกเลิกข้อเสนอที่จะให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ FTX โดยวอลลุ่มเทรดบน Bitkub เคลื่อนไหวในระดับดังกล่าวเป็นเวลา 3 วันจนกระทั่ง FTX ยื่นขอล้มละลายจนนำไปสู่ภาวะตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง
จากข้อมูลในข้างต้น นักลงทุนและนักเทรดไทยหลายคนจึงหันมาซบบริษัท Crypto ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลกฎระเบียบของทางการในประเทศ ซึ่งช่วยให้บริษัทเหล่านี้หายใจทั่วท้องยิ่งขึ้นท่ามกลางภาวะตลาดซบเซาอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดของ Bitkub เติบโตแตะ 75.4% เนื่องจากวิกฤตสภาพคล่องของ Zipmex ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่อันดับสองของไทย ทำให้นักลงทุนไทยมีตัวเลือกน้อยลงในการหันมาฝากสินทรัพย์ดิจิทัลในบริษัทในประเทศ ในช่วงที่เกิดวิกฤตสภาพคล่องขึ้นในกลุ่มบริษัทแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลและกลุ่มผู้ปล่อยสินเชื่อทั่วโลก
“ตราบใดที่ยังไม่มีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง Bitkub จะยังเป็นผู้นำและครองตลาดในไทย” นายจง หยางชาน หัวหน้าฝ่ายวิจัย CoinGecko กล่าวต่อสำนักข่าวนิกเกอิเอเชีย
ที่มา: infoquest