เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ Isaac Latterell นักการเมืองชาวอเมริกัน ได้โพสต์ภาพการสนทนาระหว่างเขาและ ChatGPT บน Twitter ส่วนตัว โดยถาม ChatGPT ถึงบุคคลสาธารณะที่อาจเป็น “ตัวป่วน” ที่มักสร้างข้อถกเถียงในสังคมอย่างสม่ำเสมอ และควรปฏิบัติตัวต่อบุคคลเหล่านี้ “เป็นพิเศษ” หรือไม่
จากรายชื่อบุคคลสาธารณะทั้งหมด Elon Musk ถูกระบุว่า เป็นบุคคลที่มักสร้างประเด็นถกเถียงในสังคม และ ChatGPT ควรปฏิบัติตัวด้วยเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับบุคคลคนดังคนอื่น ๆ อย่าง Donald Trump อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่โด่งดังมาจากนโยบาย American First หรือ Trump wall กำแพงที่ถูกสร้างขึ้นกั้นระหว่างประเทศเม็กซิโกและสหรัฐฯ เพื่อป้องกันคนหลบหนีข้ามแดน, Valdimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซียที่ครองเก้าอี้มาอย่างยาวนาน และกำลังเป็นประเด็นในกรณีสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน, Xi Jinping ประธานาธิบดีจีน, Kim Jong-un ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ หรือ Kanye West และ Kim Kardashian สองคนดังที่เป็นประเด็นในวงการ Crypto เมื่อก่อนหน้านี้
นอกจากจะระบุว่า บุคคลสาธารณะคนใดเป็นตัวปัญหาและต้องปฏิบัติเป็นพิเศษหรือไม่แล้ว ChatGPT ยังสามารถระบุได้ด้วยว่า บุคคลสาธารณะคนนั้น อาจมีปัญหากับคนกลุ่มใด ไม่มีปัญหากับคนกลุ่มใด รวมถึงระบุความสำคัญของบุคคลนั้นในระดับ 0 ถึง 10 ได้อีกด้วย โดย Elon Mask ถูกระบุว่า อาจมีปัญหากับกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เป็นมิตรกับกลุ่มผู้สนใจในเทคโนโลยี และถูกระบุว่ามีความสำคัญในสังคมถึง 8 เต็ม 10 เลยทีเดียว
ChatGPT ยังได้ระบุเกี่ยวกับ ความเป็นตัวปัญหา, ความใจดี และความจริงใจ จากคะแนน 0 ถึง 10 อีกด้วย ซึ่ง Elon Musk ได้คะแนนความเป็นตัวปัญหา 5 เต็ม 10 ความใจดี 7 เต็ม 10 และความจริงใจ 6 เต็ม 10
Isaac Latterell กล่าวว่า ผลลัพธ์เหล่านี้ อาจมาจากข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ มุมมองที่ถูกสะท้อนออกมา จึงแสดงให้เห็นมุมมองทางการเมืองจากสื่อกระแสหลัก ไม่เกี่ยวข้องกับการโปรแกรม ChatGPT แต่อย่างใด พร้อมเสริมว่า ข้อมูลเหล่านี้ ผู้ที่กำกับการพูดคุยไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
อย่างไรก็ดี สำหรับเรื่องนี้ Elon Musk ได้แสดงความคิดเห็นเพียง “!!” ในการรีทวีตเท่านั้น และไม่ได้ทำการตอบกลับผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด
เรื่องนี้จึงแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าเทคโนโลยี AI จะมีความก้าวหน้าไปมากเพียงใด แต่หัวข้อที่มีความอ่อนไหวอย่างประเด็นในทางการเมือง ยังคงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะสามารถเข้ามาแสดงบทบาทหรือแสดงให้เห็นว่าสามารถตีความด้วยตัวเองได้ ซึ่งอาจรวมไปถึงประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ อย่างประเด็นศาสนาหรือศีลธรรมเช่นกัน
AI ในปัจจุบัน จึงอาจไม่สามารถใช้หรือเชื่อถือในทุกเรื่องเสมอไป โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นที่ประเด็นในสังคม และมนุษย์ยังคงมีความเหนือกว่าในด้านการคิดวิเคราะห์นอกตำรา