<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“อาจารย์ตั๊ม พิริยะ” เชื่อ เหรียญ Stablecoin ‘BUSD’ อาจไม่ใช่ ‘แพะ’ ตัวแรกที่ถูกเชือด !

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้เริ่มดำเนินการปราบปรามด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรม Crypto อย่างเข้มงวดมากขึ้น จนนำไปสู่ประเด็นดราม่าในชุมชน และกระทบกระเทือนราคา Stablecoin บางเหรียญในตลาด ดังนั้นในเวลานี้นักเทรดและนักลงทุน Crypto หลายคนจึงกำลังสงสัยว่า SEC มีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลังการปราบปราม Stablecoin ครั้งใหญ่ในปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา อาจารย์ตั๊ม พิริยะ สัมพันธารักษ์ กรรมการบริหาร บริษัท โฉลกดอทคอม ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นการปราบปรามเหรียญ Stablecoin กับทางรายการหนุ่ยทอล์ก ร่วมกับคุณซันเจ สัญชัย ปอปลี CEO ของ Cryptomind Advisory ทั้งนี้ทางอาจารย์ตั๊มได้เริ่มต้นด้วยการอธิบายว่าการดำเนินงานของ SEC ในปัจจุบัน คล้ายกับสิ่งที่เรียกว่า “ปฏิบัติการบีบคอให้ตาย” ที่ SEC เคยกระทำมาแล้วในอดีต

“พูดง่าย ๆ คือ การบีบบังคับองค์กรต่าง ๆ ให้ทำสิ่งที่รัฐบาลต้องการโดยใช้วิธีนอกกฎหมาย ซึ่งครั้งแรกมันเกิดขึ้นประมาณปี 2009 – 2010 อย่างเช่นการใช้วิธีออกคำตักเตือนแบบ ‘ไม่อยากให้ยุ่งกับเหรียญพวกนี้จังเลย’ และไม่ได้กำหนดบทลงโทษไว้ แต่คนก็รู้กันว่ามันคือวิธีการกีดกัน” อาจารย์ตั๊มกล่าว

อาจารย์ตั๊มชี้ว่าท่าทีของ SEC ในช่วงที่เหรียญ Crypto เพิ่งถือกำเนิดขึ้นมานั้น คือ “จุดที่ทำให้ Stablecoin เกิดขึ้นมา” เพราะคนต้องการเทรด Crypto กับเงินที่ตนเองคุ้นเคย เช่น เงินดอลลาร์ แต่ธนาคารกลับไม่สามารถให้บริการในฐานะ Crypto Exchange ได้ เนื่องจากถ้าหากธนาคารเปิดให้บริการในลักษณะดังกล่าว ก็จะต้องเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า “คำตักเตือน”

ในปัจจุบัน Stablecoin มีความจำเป็นและมีความเหมาะสมด้านการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ทว่าในขณะนี้ก็กำลังมีรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการออกเหรียญ CBDC เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วการบีบบังคับให้ประชาชนใช้ CBDC นั้นไม่สามารถทำได้โดยง่าย เนื่องจากคนทั่วไปมักหันไปหา Stablecoin ที่มีค่าเทียบเท่าเงินดอลลาร์ที่ตนเองคุ้นเคยกันมากกว่า

อาจารย์ตั๊มอธิบายต่อว่า “วิธีการบังคับให้คนหันมาใช้ CBDC” ถูกระบุไว้ในแผนงานของธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements) โดยระบุว่า “จะต้องทำให้เกิดวิกฤตขึ้น” เนื่องจากการบังคับใช้ CBDC ในช่วงวิกฤตทางการเงินนั้นสามารถทำได้ง่ายมาก

อาจารย์ตั๊มมองแผนงานดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง และกล่าวว่า “เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจมีการสร้างวิกฤตทางการเงินให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และหลังจากนั้น เมื่อ CBDC พร้อม ก็อาจจะนำไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ แล้วบังคับให้คนใช้ CBDC”

“ถ้าจะทำแบบนั้นได้ มันต้องไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งตอนนี้ Stablecoin คือทางเลือก ดังนั้นต้องบีบ Stablecoin ให้ตาย เพื่อให้คนไม่มีทางเลือกก่อน ถึงบังคับให้คนใช้ CBDC ได้” อาจารย์ตั๊มกล่าว “อาจจะมองโลกในแง่ร้ายไปนิดนึง แต่ก็แปลว่า BUSD อาจจะไม่ใช่แพะตัวแรกที่ถูกเชือด” 

สำหรับทางด้านของคุณซันเจเองก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับอาจารย์ตั๊มด้วยเช่นกัน โดยคุณซันเจมองว่า ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลัง “ส่งสัญญาณอย่างหนักให้กับวงการ Crypto” แต่ในขณะเดียวกันทุกคนก็เห็นว่าภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก เช่น ดูไบ กำลังเห็นช่วงเวลานี้เป็นโอกาส และพยายามจะเปิดรับ Crypto มากขึ้น

“ผมว่าเรื่องนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น” คุณซันเจคาดการณ์ “แต่ถ้าถามว่าจุดนี้น่าเป็นห่วงไหม มันก็น่าเป็นห่วง ผมว่าปีนี้ regulator ของสหรัฐฯ น่าจะจับตาวงการนี้ และจะเข้ามากำกับดูแลอีกเยอะ แต่เราจะเห็น regulator ของอีกซีกหนึ่งของโลกหันมาเปิดรับ Crypto มากขึ้น เพราะเขามองว่านี่เป็นโอกาส”