<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลให้ตลาด Crypto ผันผวนในระยะสั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาด Crypto เป็นตลาดที่มีความผันผวนมากตามธรรมชาติ และราคาของ Crypto ก็มักที่จะแปรผันตามปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลก นโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในวงการคริปโต

โดยเฉพาะช่วงนี้มีข่าวและรายงานต่าง ๆ ออกมา ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาของ Crypto ในตลาดที่มีความผันผวนสูงอยู่แล้วให้มีความผันผวนมากขึ้นไปอีก และ 3 ปัจจัยเหล่านี้ คือสิ่งที่ทาง Siam Blockchain มองว่า อาจจะส่งผลให้ตลาด Crypto มีความผันผวนขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้

สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

การที่ Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศยุติการเข้าร่วมในสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ หรือ New START ก่อให้เกิดความกังวลว่า รัสเซียมีแผนการที่จะบุกรุกยูเครนครั้งใหญ่

สนธิสัญญา New START ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ สองประเทศมหาอำนาจที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ที่มีความขัดแย้งระหว่างกันมาตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น

การยกเลิกสนธิสัญญาในครั้งนี้ จึงสร้างความหวาดวิตกให้แก่ชาวโลก รวมไปถึงนักลงทุนทั้งหลาย ว่าความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทวีความรุนแรงขึ้น หรือจะทำให้อาวุธนิวเคลียร์ถูกนำมาใช้จริงหรือไม่

การประกาศยกเลิกสนธิสัญญานี้ จึงอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาด Crypto เกิดความโกลาหล เนื่องจากเมื่อก่อนหน้านี้ ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงเล็กน้อยหลังจากประกาศนี้ออกมา

ดัชนี PCE 

ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ Core Personal Consumption Expenditures (PCE) เป็นดัชนีที่ถูกใช้เป็นตัวประมาณการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) ของสหรัฐฯ

ดัชนีนี้ มักจะถูกธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ (FED) นำมาใช้ในฐานะตัวชี้วัดระยะยาว เพื่อดูว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศเป็นไปในทิศทางใด เนื่องจากดัชนีนี้ สามารถแยกราคาที่มีความผันผวนในระยะสั้นออกมาได้

รายงานดัชนี PCE ที่กำลังจะเกิดขึ้นเวลา 18.30 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่เหล่านักลงทุนต้องจับตามอง เพื่อดูแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่อาจจะส่งผลต่อราคา Crypto ในระยะยาวในอนาคต

ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า

การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สืบเนื่องมาจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเป็นอีกหนึ่งฉนวนสาเหตุที่ทำให้ความผันผวนของตลาด Crypto ทวีความรุนแรงให้มากขึ้นไปอีก

ปกติแล้วค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มักมีความผกผันกับราคาของ Bitcoin และสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ อยู่เสมอ เนื่องจากยิ่งธนาคารกลางประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเท่าไหร่ ค่าเงินก็ยิ่งแข็งค่ามากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ตลาด Crypto และสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ต้องประสบกับภาวะซบเซา เนื่องจากคนหันไปถือเงินเฟียตมากขึ้น

การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะแข็งค่าขึ้นอีกจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังการประกาศรายงานดัชนี PCE จึงอาจส่งผลให้ตลาด Crypto มีความผันผวนมากยิ่งขึ้น

ตลาด Crypto ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป จึงต้องจับตามอง และเพิ่มความระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อหรือขายโทเค็นขึ้นมากทีเดียว เนื่องจากความผันผวนของตลาดที่จะเกิดขึ้น อาจทำให้เหล่านักลงทันเสียทรัพย์ไปเป็นจำนวนมากก็เป็นได้

คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้