<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ถอดบทเรียนสาย HODL จาก “โจลูกอีสาน” ชายผู้ที่ปั้นพอร์ตหุ้นจากทุน 8 แสนสู่หลัก “ร้อยล้าน”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

โจ ลูกอีสาน หรือคุณอนุรักษ์ บุญแสวง นักเทรดหุ้นชาวไทยสาย VI ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คน จากการมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ขึ้นมาเป็นนักเทรดชั้นนำของประเทศด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ทำให้เขามีประสบการณ์มากมาย

คุณอนุรักษ์ บุญแสวง เกิดที่จังหวัดพังงาในภาคใต้ของประเทศไทย ด้วยความที่มีชีวิตวัยเด็กที่ค่อนข้างลำบาก ทำให้เขามีความรู้สึกว่าอยากรวยตั้งแต่มัธยมปลาย และคิดว่าหากจะรวยได้ เขาจะต้องเป็นนักธุรกิจ และเมื่อรู้จักตลาดหุ้น เขาจึงว่าแผนว่าจะเก็บเงินก้อนเพื่อลงทุนในบริษัทดี ๆ เพื่อรับผลตอบแทน แทนการก่อตั้งธุรกิจด้วยตัวเอง

ตลอดชีวิตในช่วงแรกของเขาเต็มไปด้วยความยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บหอมรอมริด อาศัยอยู่อย่างอัตคัต หรือทำงานในครัวพร้อมกับเรียนที่ต่างประเทศ แต่ด้วยความอดทน และใฝ่ฝันว่าจะต้องรวยให้ได้ เขาจึงเก็บรวบรวมเงินได้เป็นจำนวน 800,000 บาท และเลือกลงทุนในหุ้น จนกระทั่งได้ผลตอบแทนหลักร้อยล้านบาท จนกลายเป็นนักลงทุนระดับท็อปของไทยในที่สุด

จากเหตุการณ์ที่คุณโจ ลูกอีสาน ประสบมา ทำให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ควรเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง ทาง Siam Blockchain จึงขอถอดบทเรียนจากคุณโจ ลูกอีสาน เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการลงทุนให้กับนักลงทุนคริปโตในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจกำลังถดถอยในปัจจุบัน 

ไม่ขายสิ่งที่ทำการลงทุนที่อยู่ในมือเมื่อเกิดวิกฤต

ตลาด Crypto และตลาดหุ้น ผ่านวิกฤตทางการเงินมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะในปีที่แล้วที่เกิดเหตุการณ์ใหญ่มากมาย โดยเฉพาะในตลาด Crypto ที่ทำให้ทั้งบริษัทและนักลงทุนหลายคนล้มละลายไปตาม ๆ กัน

อย่างไรก็ตาม การขายสิ่งที่ถืออยู่ในมือขณะเกิดวิกฤตไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยรัฐ คุณโจ ลูกอีสาน ได้กล่าวแนะนำว่า “ผมบอกเลยว่าอย่าทำโง่ ๆ โดยขายหุ้นทิ้งตอนวิกฤติ ตอนหุ้นดี ๆ ไม่ขายไปขายตอนหุ้นต่ำ ๆ ทำแบบนี้รับรองว่าเจ๊ง!!” เสริมว่า “สิ่งที่ผมจะหลีกเลี่ยงคือการกู้เงินใช้เงินร้อนมาซื้อหุ้น…อันตรายมาก ๆ”

“เราต้องลงทุนด้วยความไม่ประมาท ไม่ใช่มองแต่ทางได้ แต่ต้องมองว่าถ้าเกิดเราเสียจะเสียทางไหนได้บ้าง แล้วพยายามหลีกเลี่ยงซะ”

ไม่ตื่นตระหนก

ในยุคที่ข่าวสารมีความรวดเร็วและว่องไว จากการเกิดขึ้นของโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย ทำให้เราสามารถรู้ข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นอกจากข่าวสารข้อเท็จจริงแล้ว ข่าวลือหรือ FUD เอง ก็กระจายอยู่เต็มโลกอินเตอร์เน็ตเช่นกัน

คุณโจ ลูกอีสาน ได้แนะนำเหล่านักลงทุนในรายการ Prachachat Wealth ของสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ ว่า “ถามว่าข่าวสารเหล่านี้มันสำคัญไหม ผมคิดว่ามันไม่อาจสู้ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่เราสนใจได้ก็คือ กำไรของบริษัท”

คุณโจ ลูกอีสาน มองว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะปั่นป่วน หรือเกิดการ Panic sell ทำให้ราคาร่วง แต่ถ้าบริษัทมีการบริหารจัดการดีและยังมีกำไร ราคาหุ้นของบริษัทนั้นจะฟื้นตัวกลับมา อย่างไรก็ตาม “ถ้าเกิดบริษัทของเราไม่ดีจริง ๆ อันนี้เราต้องเปิดใจ”

เขามองว่า ข่าวสารต่าง ๆ เป็นดั่งสิ่งรบกวนที่ทำให้ความสนใจของนักลงทุนเบี่ยงไปอยู่ที่สิ่งอื่นแทน ทำให้ไม่สามารถลงทุนในระยะยาวได้ และไม่ประสบความสำเร็จ

ลงทุนระยะยาว

ถือสิ่งที่ลงทุนเอาไว้ในระยะยาว

คุณโจ ลูกอีสาน เชื่อมั่นในการเก็งกำไร “ระยะยาว” โดยเชื่อว่า “หุ้นที่ดี ยิ่งถือนานยิ่งดี” โดยเขามักจะถือหุ้นเป็นระยะเวลา 1 ถึง 3 ปี และเมื่อถึงราคาที่เขาคาดการณ์ไว้ เขาจะทำการขายหุ้นตัวนั้นออกไป

นอกจากการถือหุ้นระยะยาวแล้ว คุณโจ ลูกอีสาน ไม่ดึงเงินลงทุนออกมาใช้ ซึ่งทำให้เขาสามารถได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก

แม้ว่าหลักการนี้ อาจไม่สามารถใช้กับ Crypto ได้ เนื่องจาก Crypto ไม่สามารถมอบผลตอบแทนรายปีได้เช่นเดียวกับหุ้น แต่การถือ Crypto ในระยะยาว อาจสร้างผลตอบแทนเป็นจำนวนมากเช่นกันในอนาคต

ดังนั้น สิ่งที่เหล่านักลงทุนสามารถนำเอาบทเรียนของคุณ โจลูกอีสาร มาประยุกต์ใช้ได้ จึงเป็นการมีสติยามเกิดภาวะเศรษฐกิจ และเลือก Crypto โปรเจกต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าหากเกิดวิกฤตขึ้นมา Crypto ที่ถืออยู่จะยังสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ รวมไปถึงการไม่ตื่นตระหนกไปกับข่าวสารที่มีความว่องไวและอาจไม่ใช้ข่าวที่มีมูลความจริง จน Panic sell และการเลือกถือ Crypto ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตในระยะยาว โดยเฉพาะโปรเจกต์ที่มีการนำมาใช้จริง

นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การมีสติ เนื่องจากตลาด Crypto มีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงควรระมัดระวังและตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนเลือกลงทุนทุกครั้ง

คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

อ้างอิง: