<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘ท็อป จิรายุส’ เผยกลยุทธ์ Bitkub ปีนี้ เน้น “ความยั่งยืน” แทนที่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ The Story Thailand สื่อข่าวด้านเศรษฐกิจและธุรกิจของไทย ได้สัมภาษณ์ คุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Bitkub Capital Holding ผู้ให้บริการ Bitkub กระดานเทรดสัญชาติไทยที่เป็นที่รู้จักกันดี ถึงยุทธศาสตร์ของบริษัทในปีนี้ หลังจากผ่านปีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของโลก Crypto มาได้ โดยสรุปได้ดังนี้

มุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน

คุณท็อปกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา Bitkub ใช้กลยุทธ์ที่เน้นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพียงอย่างเดียว แต่นับจากปี 2566 เป็นต้นไป Bitkub จะเปลี่ยนกลยุทธ์ จากเน้นการเติบโต ไปที่ความยั่งยืนแทน โดยจะใช้โมเดลธุรกิจแบบ ESG คือ Environment (สิ่งแวดล้อม), Social (สังคม) และ Governance (มีการจัดการที่ดี) โดยจะเน้นไปที่ S และ G เป็นหลัก

ในด้านสังคม Bitkub จะทำการกระจายผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทมากขึ้น เพื่อสร้างคุณค่าที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ขณะที่ด้านการจัดการ คุณท็อปกล่าวว่า ทางบริษัทจะเน้นไปที่การบริการความเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นความยั่งยืน กระจายอำนาจการตัดสินใจและสร้างการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น เพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่สุดที่สุด

นอกจากนี้ Bitkub ยังมุ่งพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร รวมถึงสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นไปในทางเดียวกัน

เตรียมตัวรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า

ด้านเศรษฐกิจ คุณท็อปมองว่า แม้ปี 2566 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่จะได้จัดการและเตรียมพร้อมที่จะบุกตลาดอีกครั้งในปี 2567 ซึ่งเป็นปีที่ Bitkub คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นฟูกลับมาอีกครั้ง

คุณท็อปยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ “ปีทอง” ทุก ๆ 4 ปี โดยครั้งต่อไปจะเป็นปี 2567 ซึ่งจะเป็นปีที่อัตราเงินเฟ้อจะลดลงมาอยู่ที่ 2% ตามที่การประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอสกำหนดไว้ ทำให้เกิดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในภาคเศรษฐกิจ

ปี 2566 จึงเป็นปีที่ Bitkub จะเตรียมตัวและจัดการองค์กร เพื่อเตรียมพร้อมรับการเติบโตทางเศรษญกิจที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า แม้ว่าอาจจะไม่ได้เติบโตในระดับ 1,000% เช่นเดิมจากการเน้นไปที่การยั่งยืนมากกว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดก็ตาม

สร้างฐานที่แข็งแรง

แม้ว่าปี 2565 การเติบโตของ Bitkub จะลดลงไปถึง 50% จากเศรษฐกิจโลกและตลาดต่าง ๆ ที่อยู่ในภาวะซบเซา อย่างไรก็ตาม คุณท็อปยังคงยืนยันว่า กลุ่มธุรกิจของ Bitkub ยังคงมีความแข็งแรง จากการที่ยังสามารถทำเงินได้โดยไม่ต้องทำการระดมทุนเพิ่ม

คุณท็อปยังเชื่อว่า ผลกระทบจากการล่มสลายของหลายบริษัทในวงการ Crypto จะส่งผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น โดยยกคำกล่าวของ Warren Buffet มหาเศรษฐีรุ่นเก๋า ที่ว่า “เวลาน้ำขึ้นทุกคนก็ดูดีไปหมด แต่พอน้ำลงจะรู้ว่าใครแก้ผ้าอยู่” ในการอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

มุ่งเน้น Web3

นอกจากกระดานเทรดแล้ว Bitkub ยังมุ่งสร้างระบบนิเวศ Web3 ของคนไทยขึ้นมาเพื่อสร้างเศรษฐกิจแบบดิจิทัล เนื่องจากคุณท็อปมองว่า อีกไม่นาน เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI, AR/VR, Metaverse, บล็อกเชน รวมถึง Crypto กำลังจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ Bitkub ยังหวังว่า บริษัทจะมีส่วนร่วมในการเกิดขึ้นของบริษัทสตาร์ทอัพต่าง ๆ ของไทย เพื่อเติมเต็มส่วนที่ยังขาดไปของระบบนิเวศ ที่จะก่อให้เกิดการลงทุนในไทยมากขึ้น ทั้งยังหวังว่า Bitkub จะสามารถสร้างยุค Web3 ให้แก่ไทยได้

คุณท็อป เน้นย้ำกับนักลงทุนว่าในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังถดถอยเช่นนี้ นักลงทุนควรเก็บเงินเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น และอย่าก่อหนี้เพิ่ม จนกว่าจะเกิดการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอีกครั้งในปี 2567

อ้างอิง: The Story Thailand

ที่มาภาพ: ท๊อป จิรายุส – Topp Jirayu