เมื่อการมาถึงของ Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI นั้นสามารถสร้างกระแสในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วทุกมุมโลก แน่นอนว่าอีกหนึ่งประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างจีน จึงพลาดไม่ได้ที่จะก้าวสู่สนามรบของการแข่งขันทางเทคโนโลยี AI ด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ Baidu บริษัท search-engine ยักษ์ใหญ่ของจีน ได้ประกาศแผนการเปิดตัว AI Chatbot ที่มีชื่อว่า “ERNIE Bot” ข่าวดังกล่าวก็ได้ทำให้หุ้นเทคโนโลยีของจีนราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง อีกทั้งทางการจีนยังให้คำมั่นด้วยว่าจะเพิ่มการสนับสนุนภาคส่วนดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนอย่าง Huawei, Alibaba, Tencent, JD.com และสถาบันชั้นนำต่าง ๆ รวมไปถึง Beijing Academy of Artificial Intelligence ก็กำลังพัฒนาโปรเจกต์ AI Chatbot ที่คล้ายกับ ERNIE ด้วยเช่นกัน
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะผลักดันให้มีการรวม AI เข้ากับอุตสาหกรรมของจีน ในขณะที่ทางการปักกิ่งและเมืองต่าง ๆ พร้อมใจกันประกาศแผนสนับสนุนนักพัฒนาด้วยเช่นกัน
ในขณะที่จีนเป็นผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ในโลกโซเชียล ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตามได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ดูเหมือนว่าขณะนี้จีนกำลังมุ่งหน้าสู่การแข่งขันกับ ChatGPT เนื่องจากตั้งแต่ที่ ChatGPT เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว AI Chatbot ดังกล่าวก็ได้สร้างความปั่นป่วนอย่างหนักในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศจีน ตามรายงานจากสำนักข่าว Reuters
อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีนมักจะมีการเซ็นเซอร์ทางอินเทอร์เน็ตด้วยการแบนคำ ลบโพสต์ หรือแบนผู้ใช้ตามกฎระเบียบของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีนมักใช้คำพ้องเสียง ข้อความรหัสลับ หรือภาพหน้าจอ เพื่อหลีกเลี่ยงการควบคุมข้อมูล ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า Chatbot ของจีนอาจมีเครื่องมือเซ็นเซอร์ดังกล่าว และผู้ใช้อาจจะเข้าถึงกลุ่มข้อมูลได้อย่างจำกัด
แชทบอท ERNIE ของ Baidu ใช้ข้อมูลที่คัดมาจากทั้งภายในและภายนอก firewall ของจีน อีกทั้งยังดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลชื่อดังอย่าง Wikipedia หรือ Reddit ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำให้ผู้ใช้สามารถได้รับกลุ่มข้อมูลได้อย่างเพียงพอ
ดังนั้นสมมติว่าถ้าหากผลิตภัณฑ์ AI Chatbot ของจีนมีประสิทธิภาพในระดับที่ใกล้เคียงกับ ChatGPT บริษัทเทคโนโลยีของจีนอาจจะต้องเลือกว่าควรจำกัดข้อมูลสำหรับ Chatbot เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบของ CCP หรือไม่
ที่มา: aljazeera