<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Hacker ก็ไม่รอด ! รายงานเผย Hacker 45 คนโดนเลิกจ้าง หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่มระดับการป้องกัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แฮ็กเกอร์ ดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มคนล่าสุดของตลาดแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และบริษัท Security ต่าง ๆ เพิ่มความระแวงระวังภัยทางไซเบอร์มากขึ้น อ้างอิงตามการรายงานของ Wall Street Journal

การเพิ่มความระมัดระวังทางไซเบอร์นี้ ทำให้จำนวนการโจมตีผ่านโลกออนไลน์ที่พบเห็นอย่างแพร่หลายเมื่อปีที่แล้ว ลดน้อยลงในปีนี้ โดยข้อมูลจาก Red Sense บริษัทเทคโนโลยีเปิดเผยว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า Conti ทำสั่งปลดพนักงาน Call-center ที่ทำหน้าที่โทรไปยังเป้าหมายเพื่อหลอกลวงออกถึง 45 คนในช่วงปีที่แล้ว

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่า ทางกระทรวงจะเพิ่มนโยบายด้านการป้องกันการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์มากขึ้น และก่อตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นในปี 2021 รวมไปถึง National Cryptocurrency Enforcement Team และ Ransomware and Digital Extortion Task Force ซึ่งช่วยให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สามารถสืบสวนและส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแฮ็กเกอร์ได้ 

โดยเมื่อปีที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สามารถจับกุมแฮ็กเกอร์และคุมขังอยู่ที่ประเทศโปแลนด์  แฮ็กเกอร์รายนี้ได้ใช้โปรแกรมมัลแวร์ Sodinokibi/REvil ในการแฮ็กบริษัทต่าง ๆ รวมไปถึงบริษัทซอร์ฟแวร์ Kaseya มายังสหรัฐฯ เพื่อดำเนินคดีได้

หน่วยงานนี้ยังได้ทำหน้าที่ดูแลกรณีที่มีการโจมตีครั้งใหญ่ เช่น การแฮ็ค Colonial Pipeline ที่ส่งผลกระทบต่อท่อแก๊สความยาว 5,000 ไมล์ที่สูงส่งไปยังรัฐชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯ เมื่อปี 2021 อีกด้วย

ในรายงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ระบุว่า กระทรวงได้จับตามองโปรแกรมมัลแวร์กว่า 100 ตัว และกลุ่มที่ถูกสงสัยว่าทำการหลอกเงินจากเหยื่อรวมมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

นอกจากสหรัฐฯ หลายประเทศได้ทำการเพิ่มการระแวงระวังภัยจากการโจมตีด้วยมัลแวร์มากขึ้น และพยายามปรับปรุงกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัว ตามข้อมูลจาก Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี เสริมว่า ประเทศต่าง ๆ ราว 1 ใน 3 ของโลกมุ่งหวังที่จะออกกฎหมายควบคุมมัลแวร์ภายในปี 2025


ที่มา: Insider