เจ้าหน้าที่ Fed หลาย ๆ คนกล่าวว่าตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงส่งสัญญาณถึงเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่องและนั่นอาจทำให้ Fed ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เมื่อช่วงวันพฤหัสบดี Christopher Waller สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการ Fed ที่ทรงอิทธิพลท่านหนึ่งได้กล่าวว่าหากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้น Fed ก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักที่สูงกว่า 5.4%
ซึ่งนั่นจะสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่ Fed ได้ส่งสัญญาณเตือนเอาไว้ในเดือนธันวาคมโดยพวกเขาคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวมันจะถึงจุดพีคสุดที่ 5.1% ในปีนี้
“ข้อมูลล่าสุดบ่งบอกว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคไม่ได้ชะลอตัวมากนัก ตลาดแรงงานยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ลดลงเร็วอย่างที่ผมคิดไว้”
Waller กล่าวในคำปราศรัยที่เตรียมไว้สำหรับการประชุมทางธุรกิจใน Los Angeles
คำกล่าวของเขาออกมาในทิศทางตรงกันข้ามกับคำแถลงการณ์ที่เขากล่าวในเดือนมกราคม หัวข้อ “กรณีสำหรับการมีมุมมองในแง่ดีอย่างระมัดระวัง” ซึ่งเป็นการพูดในช่วงที่เกิดอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดและลดลงอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายของ Fed คือการทำให้เศรษฐกิจเย็นตัวลงโดยเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมและชะลอการใช้จ่ายของภาคธุรกิจและผู้บริโภค การเติบโตอย่างพอดีน่าจะช่วยชะลออัตราเงินเฟ้อไปสู่เป้าหมายของ Fed ที่ 2% เจ้าหน้าที่ Fed จะประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 21-22 มีนาคม ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปเป็นที่ 4.9%
ที่มา : Fortune