<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มหาเศรษฐี “Mark Mobius” โวยลั่น หลังถอนเงินจาก HSBC China ไม่ได้ พร้อมเตือน “นักลงทุนหุ้นจีนให้ระวัง”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Fox Business เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มหาเศรษฐี Mark Mobius ผู้ก่อตั้ง Mobius Capital Partners บริษัทบริหารจัดการเงินลงทุนในลอนดอน กล่าวว่า เขาไม่สามารถถอนเงินออกจากธนาคาร HSBC ในประเทศจีนได้ พร้อมอ้างถึงมาตรการควบคุมเงินทุนอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลจีน

Mobius ใช้เวลากว่าสามทศวรรษที่ Franklin Templeton Investments ก่อนที่จะเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งประธานบริหารของ Templeton Emerging Markets Group บริษัทด้านกองทุนรวมและโซลูชันการลงทุน ซึ่งเขาคือผู้บริหารพอร์ตการลงทุนในตลาดเกิดใหม่มากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์

เมื่อการสัมภาษณ์ดำเนินไปจนถึงช่วงการพูดคุยเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนและปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมของรัฐบาล มหาเศรษฐี Mobius ก็ได้กล่าวว่า

“ผมได้รับผลกระทบเป็นการส่วนตัว ผมมีบัญชีธนาคาร HSBC ในเซี่ยงไฮ้ แต่ผมไม่สามารถนำเงินออกมาได้… ผมไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ มันน่าทึ่งมาก พวกเขากำลังวางสิ่งกีดขวางทุกรูปแบบ”

“พวกเขาไม่ได้พูดว่า: ‘ไม่ คุณไม่สามารถเอาเงินของคุณออกมาได้’ แต่พวกเขาบอกให้ผมมอบบันทึกตลอด 20 ปีที่ผมสร้างรายได้ก้อนนี้และเอกสารอื่น ๆ แก่พวกเขา” Mobius ให้รายละเอียด

“นี่มันบ้าไปแล้ว” Mobius กล่าว พร้อมย้ำว่าปัญหานี้คือ “ปัญหาสำคัญ”

ขณะเดียวกัน Mobius ก็ได้เตือนเกี่ยวกับการลงทุนในจีน โดยกล่าวว่า “รัฐบาลกำลังจำกัดการนำเงินออกนอกประเทศ… ดังนั้นผมจะระมัดระวังเรื่องการลงทุนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก”

แทนที่จะลงทุนในจีน Mobius กลับมองว่า “เรากำลังเข้าไปในฮ่องกง เพราะดูจะเปิดกว้างกว่าเล็กน้อย และสามารถนำเงินเข้าและออกได้… แต่การนำเงินเข้าไปในประเทศจีนนั้น ผมคิดว่าคุณต้องระมัดระวังมาก ๆ”

เมื่อพูดถึงผลกระทบของการเปิดประเทศจีนอีกครั้ง หลังจากยกเลิกนโยบายปลอด COVID-19 Mobius ก็ได้ให้ความเห็นว่า “ตอนนี้คุณมีรัฐบาลที่รับหุ้นทองคำในบริษัทต่าง ๆ ทั่วประเทศจีน นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังพยายามควบคุมบริษัทเหล่านี้ทั้งหมด” แล้วจากนั้น Mobius ก็ตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับ Tencent และ Alibaba แล้ว

หรือ Crypto คือทางออก?

อย่างที่เราทราบกันดี Crypto มีคุณสมบัติหลายอย่างที่สามารถป้องกันการถูกเซ็นเซอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติด้านการกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่า Crypto จะไม่ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลาง รัฐบาล หรือองค์กรใด ๆ

ขณะเดียวกัน Crypto ก็มีการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยการทำธุรกรรมและปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บุคคลที่สามเซ็นเซอร์การทำธุรกรรมได้ยาก นอกจากนี้ Crypto ยังถูกเก็บไว้ในเครือข่ายแบบ decentralized และได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัส จึงยากต่อการยึดหรือปิดระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากสินทรัพย์หรือระบบการชำระเงินแบบเดิม ๆ

ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงทำให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งสามารถควบคุมเครือข่าย Crypto ได้ยากมาก และแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามตรวจสอบธุรกรรม Crypto แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะสามารถปิดเครือข่ายได้อย่างสมบูรณ์ เพราะฉะนั้น Crypto จึงอาจเป็นทางออกจากปัญหาในลักษณะเดียวกับที่ Mark Mobius กำลังเผชิญอยู่ก็เป็นได้

ที่มา: news.bitcoin