Coinbase กระดานเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ของอเมริกาปฏิเสธที่จะรับผิดชอบต่อลูกค้าที่ละเมิดความผิดภัยซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Coinbase ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบหรือคืนเงินให้กับเหยื่อที่ถูกแฮกเนื่องจากละเมิดความปลอดภัยบางรายการ ส่งผลให้เจ้าของบัญชีเสียเงินไปมากถึง 96,000 ดอลลาร์เมื่อปีที่แล้วก่อนที่จะยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 6 มีนาคมนี้
Jared Ferguson ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นว่าบริษัทส่งอีเมลถึงเขาโดยระบุว่าเป็นความผิดของเขา ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
“โปรดทราบว่าคุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความปลอดภัยของอีเมล รหัสผ่าน รหัส 2FA และอุปกรณ์ของคุณแต่เพียงผู้เดียว”
สิ่งนี้ทำให้ Ferguson ฟ้อง Coinbase เกี่ยวกับการสูญเสียที่เกิดจากการละเมิดความปลอดภัยในเดือนพฤษภาคม 2022 ที่แสดงให้เห็นว่าอีเมลของ Coinbase ปฏิเสธความรับผิดชอบใด ๆ สำหรับการแฮ็กบัญชีของลูกค้า แม้ว่าพวกเขาจะไว้ใจที่จะฝากสินทรัพย์ไว้กับแพลตฟอร์มดังกล่าวก็ตาม
Coinbase ล้มเหลวที่จะรับผิดชอบ
เหยื่ออ้างว่าเขาได้รับข้อความ SMS จากผู้ให้บริการมือถือเกี่ยวกับคำขอเปลี่ยนซิมการ์ดที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เมื่อเขากู้คืนบริการไปยังอุปกรณ์ของเขาในวันต่อมา เขาพบว่าบัญชี Coinbase ของเขาถูกแฮกส่งผลให้เงินออมเกือบทั้งชีวิตของเขาหมดลงอย่างรวดเร็ว
Ferguson อ้างว่าภายใต้กฎหมายของรัฐและรัฐบาลกลาง Coinbase ควรมีความรับผิดชอบต่อการถอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้คดีนี้ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยของ Coinbase ที่ล้มเหลวในการตั้งค่าสถานะและถือเป็น “การทำธุรกรรมที่ฉ้อโกงและไม่ได้รับอนุญาตอย่างชัดเจน” ตามที่โจทก์กล่าว
เขาอ้างว่าอุปกรณ์ใหม่ (ของแฮกเกอร์) ได้โอนเงินออกจากบัญชีภายในเวลาไม่ถึง 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ รัหสผ่านของเขายังถูกรีเซ็ตจาก IP ที่ไม่เคยเชื่อมมาก่อนทันทีอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ในปี 2021 เหยื่ออีกรายหนึ่งเสียเงิน 7,200 ดอลลาร์จากบัญชี Coinbase ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันกับของ Ferguson โดยในเคสนั้นบริษัทก็ได้ปฏิเสธที่จะชดใช้ค่าเสียหายเช่นกัน
ทั้งนี้ Brian Armstrong CEO ของ Coinbase ได้บอกใบ้ว่าเครือข่าย layer-2 ของ Coinbase ใหม่อาจอยู่ภายใต้มาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด
อย่างที่ทราบกันดี Base เป็นเครือข่าย layer-2 ใหม่ของบริษัทที่มีเป้าหมายเพื่อใช้กับผู้ใช้ web 3.0 จำนวน 1 พันล้านคนซึ่งได้เปิดตัวเป็นเครือข่ายทดสอบเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ และคาดว่าจะปรับใช้กับ mainnet ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023