<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Mt.Gox เตรียมทยอยคืน Bitcoin จำนวน 137,890 BTC นับตั้งแต่ 10 มี.ค.นี้ นักลงทุนควรกังวลไหม ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวันนี้ชาว Reddit ได้มีการโพสต์เตือนเป็นนัยแล้วว่า เจ้าหนี้ของ Mt. Gox จะเริ่มได้รับ Bitcoin ของพวกเขาคืนตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเป็นต้นไป เนื่องจาก Bitcoin จำนวน 137,890 Bitcoin ที่มีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านจะถูกปลดล็อค

ประวัติความเป็นของ Mt. Gox

Mt. Gox ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มเทรด Bitcoin แห่งแรกของโลก โดยแพลตฟอร์มกระดานเทรดนี้ได้มีการเปิดตัวในปี 2010 ที่ประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าแต่เดิมทีเว็บเทรดจะก่อตั้งขึ้นในปี 2006 เพื่อทำการแลกเปลี่ยนเกมการ์ดอย่าง Magic: The Gathering Online ซึ่งชื่อ MTGOX ก็มาจากตัวย่อการ์ดนั่นเอง อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปี 2014 แพลตฟอร์มได้เปลี่ยนแปลงธุรกิจมาเป็นผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มตัวและได้มีการจัดการมากกว่า 70% ของธุรกรรม Bitcoin ทั้งหมด

แม้ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 ทุกอย่างของ Mt Gox ดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี แต่จู่ ๆ ก็เกิดการร้องเรียนของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานได้ประสบกับความล่าช้าอย่างมากในการพยายามถอน Bitcoin ของพวกเขา ก่อนที่สุดท้าย Mt. Gox ก็หยุดดำเนินการอย่างกะทันหันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2014 เนื่องจากมีการเปิดเผยว่า ทาง Mt. Gox นั้นสูญเสีย Bitcoin จำนวน 850,000 Bitcoin ไปกับการ Hack โดยจำนวน BTC ที่สูญเสียนั้น นับว่ามากกว่า 4% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมดในขณะนี้

ต่อมาด้าน Wizsec บริษัทรักษาความปลอดภัยสรุปในอีกหนึ่งปีต่อมาว่า “Bitcoin ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดที่สูญหายไปถูกขโมยโดยตรงจากกระเป๋าเงินคริปโตของ Mt. Gox เมื่อเวลาผ่านไป โดยเริ่มต้นในปลายปี 2011” สิ่งนี้มักถูกระบุว่าเป็นการแฮกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ในที่สุดการปลดล็อคก็จะเริ่มขึ้น

ในวันที่ 10 มีนาคมที่จะถึงนี้ Bitcoin จำนวน 137,890 Bitcoin คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์จะเริ่มทยอยปลดล็อค ด้วย Bitcoin ที่ราคา 22,430 ดอลลาร์ในขณะที่เขียน นี่ถือเป็นการที่มูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งสำหรับเจ้าหนี้ เพราะในตอนที่พวกเขาสูญเสีย Bitcoin ไป มันราคาอยู่ที่เพียงประมาณ 800 ดอลลาร์เท่านั้น

อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตจาก Reddit ก็ได้ตั้งคำถามที่หลายคนก็ยังคงสงสัยซึ่งนั่นก็คือ การปลดล็อค Bitcoin จะส่งผลอย่างไรต่อราคาของ Bitcoin และสิ่งที่สำคัญก็คือปริมาณอุปทานเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อราคาของ Bitcoin ได้เพราะการที่เจ้าหนี้ถูกบังคับให้ HODL โดยไม่ยินยอมมาตลอด นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง

ที่มา : Reddit