<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Nubank ว่าจ้าง David Lucas อดีตหัวหน้าแผนก Crypto ของ Meta เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์คริปโตสู่ระดับยูนิคอร์น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Nubank ธนาคารรูปแบบใหม่สัญชาติบราซิลที่เป็นที่ดูเป็นมิตรกับ Crypto มากที่สุดได้พาดหัวข่าวด้วยการว่าจ้าง David Marcus อดีตหัวหน้าคริปโตที่ Meta ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ David Marcus ก้าวลงจากตำแหน่งทันที

ตามข้อมูลจากข่าวประชาสัมพันธ์ของ Nubank Marcus ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการบริหารของ Nubank อย่างเป็นทางการซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองที่ PayPal ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินออนไลน์และ Meta แพลตฟอร์มที่ต้องการสร้างเหรียญ Diem ชื่อดังขึ้นมา

แต่ท้ายที่สุดโครงการ Diem ก็ล้มเหลวในการทำให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเนื่องจากการแทรกแซงของนักการเมืองสหรัฐฯ แต่เดิม Meta หวังว่า Libra (ภายหลังรู้จักกันในชื่อ Diem) จะกลายเป็น “เหรียญ Stablecoin ระดับโลก”

Marcus รับผิดชอบในการสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับโครงการ ซึ่งเดิมชื่อ Calibra ปีที่แล้ว เขาได้เปิดตัว Lightspark ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการโซลูชั่นสำหรับ Bitcoin Lightning Network

ในขณะที่ Nubank ได้จ้าง David Marcus อย่างมีนัยสำคัญ แต่ Neobank ก็มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการลาออกของหัวหน้าระดับโลกอย่าง Bruno Magrani ที่ประกาศลาออกจากบริษัทหลังจากทำงานมาได้ยาวนานกว่า 5 ปี

Nubank มีแผนเดินหน้าต่อ

Nubank ได้ประกาศเรื่องสำคัญเมื่อวันที่ 1 มีนาคม โดยเปิดเผยในบล็อกโพสต์ว่าได้เปิดตัวโทเคนของตัวเองที่เรียกว่า Nucoin ซึ่งจะเชื่อมโยงกับฟีเจอร์ของธนาคาร โดย Nubank จะใช้การตรวจสอผ่าน Proof of Authority (PoA) บนเครือข่ายบล็อกเชน

“ในฐานะสมาชิกคณะกรรมการ  Marcus จะมีบทบาทสำคัญในเส้นทางของ Nubank ขณะที่บริษัทขยายธุรกิจในหลายประเทศ หลายผลิตภัณฑ์ และหลายเซกเมนต์”

ที่ผ่านมา Marcus มีความเป็นมืออาชีพที่น่าประทับใจโดยทำงานในส่วนของบริการทางการเงินและเทคโนโลยีซึ่งเป็นผู้กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรม โดยเขาได้นำเสนอมุมมองที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับวิธีการขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินและผู้บริโภคไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามในขณะที่ตลาด Crypto ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อนาคตของอุตสาหกรรม Crypto ในบราซิลเองก็กำลังเติบโตเช่นเดียวกัน และ Nubank เชื่อว่าการว่าจ้าง David Marcus จะช่วยทำให้ตลาดคริปโตในบราซิลก้าวหน้าขึ้นอย่างมากในอีกหลายปีข้างหน้า