<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชุมชนคริปโตอลหม่าน หลังการล่มสลายของ Silvergate ทำให้คนเถียงกันว่า “เป็นความผิดของใคร”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การล่มสลายของธนาคาร Crypto ทำให้เกิดประเด็นข้อถกเถียงครั้งใหญ่ว่า “ใครเป็นคนผิด” และจากนี้เป็นต้นไป บริษัท Crypto จะสามารถหันไปตอบสนองความต้องการด้านการธนาคารของพวกเขาได้จากที่ไหน

การชำระบัญชีโดยสมัครใจของ Silvergate ได้จุดประกายให้ชุมชน Crypto หลายคนพากันออกมาแชร์ความคิดเกี่ยวกับที่มาของปัญหา และผลกระทบในวงกว้างจากการล่มสลายของธนาคาร Crypto

ตั้งแต่ฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้บริหารบริษัท Crypto ไปจนถึงนักวิเคราะห์และนักวิจารณ์ Crypto ทุกคนต่างมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดเกี่ยวกับคำประกาศล่าสุดจาก Silvergate

ในด้านหนึ่ง ผู้ร่างกฎหมายบางคนของสหรัฐฯ ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานะของอุตสาหกรรม Crypto โดยระบุว่าเป็น “ภาคอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงและความผันผวน ซึ่งกระจายความเสี่ยงไปทั่วระบบการเงิน”

วุฒิสมาชิก Elizabeth Warren เรียกความล้มเหลวของ Silvergate ว่า “น่าผิดหวัง แต่คาดเดาได้” และเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแล “ก้าวข้ามความเสี่ยงจาก Crypto”

ขณะที่วุฒิสมาชิกเชอร์ Sherrod Brown แบ่งปันความกังวลของเขาว่าธนาคารที่เกี่ยวข้องกับ Crypto กำลังทำให้ระบบการเงินตกอยู่ในความเสี่ยง และยืนยันที่จะ “สร้างการป้องกันที่แข็งแกร่ง สำหรับการป้องกันระบบการเงินของเราจากความเสี่ยงของ Crypto”

คำพูดของ Brown ได้จุดประกายการวิจารณ์จากชุมชน บางคนโต้แย้งว่ามันไม่ใช่ปัญหาของ Crypto และการธนาคารนั้นก็สมควรแล้วที่จะต้องถูกตำหนิ เนื่องจาก Silvergate มีเงินฝากตามต้องการมากกว่าเงินสดในมือ

ในเวลาเดียวกัน หลายบริษัทก็ได้หยิบยกประกาศล่าสุดจาก Silvergate ขึ้นมา เพื่อย้ำว่าพวกเขาจะตัดความสัมพันธ์กับธนาคารที่ล่มสลาย

ขณะที่อุตสาหกรรม Crypto ถูกภาครัฐกล่าวโจมตีอย่างหนัก Changpeng Zhao CEO ของ Binance พยายามให้ความมั่นใจกับลูกค้าบน Twitter ว่าพวกเขาไม่มีสินทรัพย์ที่จัดเก็บไว้กับ Silvergate ในขณะที่ Coinbase ก็ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่าธนาคารดังกล่าวไม่มีเงินของลูกค้า Coinbase

อีกด้านหนึ่ง Nic Carter ผู้ร่วมก่อตั้ง Castle Island และ Coin Metrics มองว่า “รัฐบาลเป็นผู้เร่งการล่มสลายของ Silvergate” โดยเริ่มจากการสืบสวนและโจมตีทางกฎหมาย

เช่นเดียวกับความเห็นก่อนหน้า Ram Ahluwalia CEO ของบริษัท Lumida ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า Silvergate ต้องเผชิญกับการดำเนินการหลังจากจดหมายของวุฒิสมาชิกทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อบริษัท และจากนั้น Silvergate ก็ถูกปฏิเสธกระบวนการที่ควรจะได้รับ

ในบล็อกโพสต์ก่อนหน้านี้ Carter อ้างถึง “Operation Choke Point 2.0” ว่ากำลังดำเนินการอยู่ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังใช้ภาคการธนาคารเพื่อการจัดระเบียบ และใช้การปราบปรามที่ซับซ้อนต่ออุตสาหกรรม Crypto อย่างกว้างขวาง

คนอื่น ๆ เชื่อว่าการล่มสลายของ Silvergate ไม่จำเป็นจะต้องส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Crypto แต่การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีที่ Biden เสนอขึ้น อาจจะทำให้สถานการณ์ของบริษัท Crypto ในสหรัฐอเมริกาทวีความรุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่เป็นข้อถกเถียง แต่ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้นั้น คือคำถามที่ว่าบริษัท Crypto ควรจะหันไปพึ่งใคร หลังจาก Silvergate ประกาศปิดตัวลง

ที่มา: cointelegraph