<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 สาเหตุที่ทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงทะลุ 20,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรงในวันนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา Bitcoin (BTC) ในช่วงเช้าของวันนี้ ถือระดับราคาที่ต่ำกว่า 21,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์เลยทีเดียว โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ราคาร่วงนั้น เนื่องมาจากนักลงทุนและนักเทรดทั่วโลกต่างกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการล่มสลายของธนาคาร Silvergate Bank หนึ่งในธนาคาร Crypto อันดับต้น ๆ ของโลก

ขณะเดียวกัน ข่าวลือเรื่องที่ Fed อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับแรงกดดันจากการประกาศเรื่องการเปลี่ยนกฎภาษี Crypto ก็ยังเป็นอีกสองปัจจัยสำคัญที่ส่งอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดด้วยเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงได้นำรายละเอียดของแต่ละสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงอย่างรุนแรง มาให้ทุกคนได้รับทราบไปพร้อมกัน

การล่มสลายของ Silvergate

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัท Silvergate Capital (SI) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคาร Silvergate ได้ออกมาประกาศว่าจะ “ยุติการดำเนินกิจการโดยสมัครใจ

หลังจากนั้น เหรียญ Crypto ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดก็ราคาร่วงต่ำลงจนถึง 20,050 ดอลลาร์ในวันต่อมา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ก่อนที่ราคาจะเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจนอยู่ที่ระดับ 20,370 ดอลลาร์ โดยระดับราคานี้ ถือเป็นจุดที่มูลค่าของ Bitcoin ลดลงมากกว่า 7.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“การล่มสลายของ Silvergate Capital ทำให้จุดนี้ยังคงเป็นสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากสำหรับตลาด Crypto ดังนั้น Bitcoin จึงมีแรงขายมากขึ้นจนลงไปแตะระดับ 20,000 ดอลลาร์” Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Oanda ระบุในบันทึกเมื่อวันพฤหัสบดี

ขณะเดียวกัน ข้อมูลของ Coinglass ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นักเทรด Bitcoin ถูกล้างพอร์ตรวมมูลค่ากว่า 98 ล้านดอลลาร์ โดยมากกว่า 94% คือผู้ที่เปิด long positions

ในช่วงเวลานี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการปิดกิจการของ Silvergate มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วราคาของ Bitcoin เริ่มลดลงมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจาก Silvergate กล่าวว่าได้เลื่อนการยื่นรายงานประจำปี พร้อมกับเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถเปิดการดำเนินกิจการต่อได้

การล่มสลายของธนาคาร Silvergate เน้นย้ำถึงปัญหาของธนาคาร Crypto ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ Moya ได้กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ cryptoverse พยายามหาบริษัทใหม่เพื่อช่วยในด้านบริการการชำระเงินและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฝากเงิน”

Julius de Kempenaer นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอาวุโสของ StockCharts.com กล่าวกับสื่อข่าว CoinDesk ว่า ถ้าหากผู้ให้บริการในตลาด Crypto เช่น Silvergate ประสบกับปัญหาใหญ่ เหตุการณ์นี้ก็จะ “ทำให้ผู้คนเข้าถึง Crypto ได้ยากขึ้น และทำให้นักลงทุนภายนอกไม่อยากเข้ามาลงทุน”

Fed ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ในสัปดาห์นี้ Rick Rieder หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนตราสารหนี้ของ BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้คาดการณ์ว่า “Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง และจะยืดเวลาออกไปเพื่อชะลอเศรษฐกิจ และทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงจนเกือบถึง 2%”

คำคาดการณ์ของ Rieder เกี่ยวข้องกับการที่ Jerome Powell ประธาน Fed เคยประกาศข้อเสนอว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้นราคา Bitcoin จึงยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากการประชุม FOMC ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้

Biden เสนอแผนเพิ่มภาษี Crypto

ตามรายงานจากสื่อข่าว Wall Street Journal เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden เสนอแผนการเก็บภาษี Crypto เพิ่มในแผนงบประมาณถัดไป ซึ่งแผนงบประมาณของ Biden ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักลงทุน Crypto ในสหรัฐฯ

ประธานาธิบดี Biden จะเสนอการเปลี่ยนแปลงกฎการเก็บภาษี Crypto เพื่อกำหนดเป้าหมายการปั่นราคาเงินดิจิทัล (wash trading) โดยนโยบายภาษี Crypto ใหม่นี้ คาดว่าจะมีการเพิ่มภาษี Crypto ขึ้นอีก 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนงบประมาณในปี 2024

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้แผนการเปลี่ยนกฎการเก็บภาษีของ Biden อาจจะไม่มีผลบังคับใช้ แต่การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีอื่น ๆ ในแผนงบประมาณล่าสุดก็อาจจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุน Crypto ในสหรัฐฯ จนทำให้นักลงทุนในสหรัฐฯ ต่างวิตกกังวลกันเป็นอย่างมาก

ที่มา: cointelegraph, coindesk