เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บัญชี Twitter ของ Bitcoin Magazine ได้นำคำกล่าวของ Satoshi Nakamoto กลับมารีโพสต์อีกครั้ง โดยเมื่อครั้งหนึ่งในปี 2009 เขาเคยกล่าวว่า “อย่าไว้ใจธนาคาร”
“ธนาคารกลางควรทำให้เงิน Fiat ไม่เสื่อมมูลค่าลง เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้คน แต่จากประวัติศาสตร์ของเงิน Fiat ที่ผ่านมา ธนาคารก็ละเมิดความไว้วางใจนั้นมาโดยตลอด”
ในข้อความดังกล่าว เป็นไปได้ว่า Satoshi อาจจะมีความเชื่อว่าการเอาเงินจากผู้ถือสกุลเงินมาพิมพ์เงินเพิ่ม จะส่งผลให้สกุลเงินเสื่อมค่า และมีผลเสียต่อผู้ถือสกุลเงิน เช่น การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหรือการปล่อยสกุลเงินในจำนวนมากเข้าสู่ตลาด ซึ่งอาจจะทำให้มูลค่าของสกุลเงินลดลง
ในช่วงปี 2009 ที่ Satoshi กล่าวข้อความนี้ออกมา มีระบบธนาคารที่เรียกว่า “Fractional Reserve Banking” คือ ระบบที่ธนาคารจำเป็นต้องเก็บเพียงเศษเสี้ยวของเงินฝากทั้งหมดเป็นทุนสำรอง ในขณะที่ส่วนที่เหลือสามารถนำไปใช้เป็นทุนกู้ยืมให้แก่ลูกค้า
แม้ว่าระบบนี้มีข้อดี เช่น ช่วยให้ธนาคารสามารถสร้างเงินและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ แต่ระบบนี้ก็อาจเป็นอันตรายได้ในบางสถานการณ์ เช่น วิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2009
ในปี 2009 Fractional Reserve Banking ถูกมองว่าเป็นอันตราย เนื่องจากปล่อยให้ธนาคารสร้างเครดิตมากเกินไป และให้ยืมเงินมากเกินไปโดยที่ไม่มีทุนสำรองเพียงพอที่จะสำรอง ซึ่งสิ่งนี้นำไปสู่สถานการณ์ที่ธนาคารให้สินเชื่อและการลงทุนที่มีความเสี่ยงโดยไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะรองรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงิน สินเชื่อและการลงทุนที่มีความเสี่ยงจำนวนมากประสบกับความล้มเหลว ทำให้ธนาคารประสบภาวะขาดทุนจำนวนมาก และสิ่งนี้ก็นำไปสู่วิกฤตสภาพคล่อง เนื่องจากธนาคารเริ่มลังเลที่จะให้ยืมเงินซึ่งกันและกัน ทำให้ตลาดสินเชื่อหยุดชะงัก และส่งผลเชิงลบอย่างมากต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง นำไปสู่การตกงานอย่างกว้างขวางและภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ข้อความของ Satoshi Nakamoto ที่ทาง Bitcoin Magazine หยิบยกขึ้นมาให้ชุมชน Crypto ทั่วโลกได้ประจักษ์ เกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่เราทุกคนต้องระมัดระวังกับการถือสกุลเงินที่มีการเสื่อมมูลค่าและอาจต้องพิจารณาทั้งการใช้สกุลเงินเหล่านั้น รวมไปถึงการลงทุนในภาคธนาคาร
การล่มสลายของธนาคาร Crypto อย่าง Silvergate ตามมาด้วย Silicon Valley และ Signature ทั้งสามแห่งนี้ได้พิสูจน์ให้อุตสาหกรรม Crypto เห็นตรงกันแล้วว่าธนาคารไม่มีปลอดภัยอีกต่อไป เพราะอาจเสี่ยงต่อการล่มสลายได้ทุกเมื่อ ดังนั้นถ้าหากเก็บเงินไว้กับธนาคาร ก็อาจเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด
นอกจากนี้ การหลุด Peg ของเหรียญ USDC ที่เป็นผลมาจากการล่มสลายของสถาบันทางการเงิน ยังสะท้อนให้เห็นว่าสกุลเงินที่มีการเสื่อมมูลค่านั้นสร้างผลกระทบได้มากแค่ไหน
คำกล่าวของ Satoshi Nakamoto ได้รับความสนใจจากชุมชน Crypto บน Twitter กว่าแสนคน ทั้งยังได้รับการแชร์ต่อไปอีกเป็นวงกว้าง โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับคำพูดของ Satoshi และพากันกล่าวคำขอบคุณแก่ผู้สร้าง Bitcoin อย่างไรก็ตาม ความเห็นหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษนั้นมาจากบัญชีของ Bitcasso ซึ่งกล่าวไว้ว่า
“หลังจากการล่มสลายของ SVB ผู้คนจำนวนมากจะไว้วางใจใน #btc กันมากขึ้น! ไปกันเถอะ #btc”
ที่มา: Bitcoin MagazineSatoshi Nakamoto on why fractional reserve banking is dangerous in 2009.