<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ท็อป จิรายุส” ตอบคำถาม ChatGPT และ AI จะเป็นเทคโนโลยีที่มาโค่น “Crypto” จริงหรือ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม คุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา CEO บริษัท Bitkub ผู้ให้บริการกระดานเทรด Crypto เจ้าดังของไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ ทันโลกกับเทรดเดอร์ KP ในหัวข้อ “ChatGPT จะ disrupt Crypto ?” โดยได้กล่าวถึงการพัฒนาและอนาคตของ AI ที่จะมีต่อโลกในอนาคต

คุณท็อป มองว่าเทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้น จากแต่เดิมที่เทคโนโลยี สามารถมอบข้อมูลให้แก่มนุษย์เพียงอย่างเดียว ทำให้มนุษย์ต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลต่อ กลายมาเป็นเทคโนโลยีสามารถมอบข้อมูลพร้อมประมวลผลให้แก่มนุษย์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของมนุษย์ไปมาก และในอนาคต AI จะเข้ามาแทรกซึมในภาคส่วนต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ในปัจจุบันยังคงประสบกับข้อจำกัดใหญ่ คือ การที่ AI ไม่มีจิตสำนึก ไม่สามารถรู้คิดได้ด้วยตัวเอง และมอบข้อมูลทุกอย่างให้แก่มนุษย์โดยไม่คำนึงถึงความผิดถูก ทำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีบางคน อาจใช้เทคโนโลยีในส่วนนั้นในทางที่ผิดได้ เช่น การขอข้อมูลจาก AI เพื่อหาจุดอ่อนของระบบหรือผลิตระเบิด เป็นต้น

แต่ถึงอย่างนั้นคุณท็อปกล่าวว่า AI ยังสามารถนำไปพัฒนาได้อีกมาก อย่างการนำข้อมูลจากหลากหลายศาสตร์มาประมวลผลร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทำให้บริษัทที่นำ AI มาใช้ในขณะนี้ อาจไม่ได้หมายความว่าเป็นบริษัทที่มีความได้เปรียบเสมอไป เนื่องจากหาก AI สามารถพัฒนาจนถึงจุดที่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างครอบคลุม บริษัทที่นำ AI มาใช้ในภายหลัง อาจมีความได้เปรียบมากกว่าก็เป็นได้

ด้านกฎหมาย คุณท็อปมองว่า หน่วยงานทางกฎหมายไม่สามารถออกกฎหมายตามเทคโนโลยี AI ทันได้ จากการที่กฎหมายเน้นไปที่สิ่งที่มีการแลกเปลี่ยนมูลค่าก่อน แต่เทคโนโลยี AI ควรมีกฎหมายในการควบคุม เนื่องจากเทคโนโลยี AI อาจก่อให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมายได้ เช่น การใช้ Deep Fake เป็นต้น

การที่เทคโนโลยี AI ใช้วิธี Machine learning ในการเรียนรู้ ยังทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่ใส่เข้าไปจะถูกจัดเก็บไว้และกลายเป็นสาธารณะ ทำให้ข้อมูลบางอย่างที่ควรจะเป็นความลับรั่วไหลออกไป บริษัทหลายบริษัทจึงสั่งห้ามไม่ให้พนักงานใช้ AI อย่าง ChatGPT ในการช่วยงาน

AI และ Crypto 

ด้านเทคโนโลยี AI และ Crypto คุณท็อปมองว่า เทคโนโลยีทั้งสองอย่างมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันและเข้ามาแก้ไขปัญหาคนละด้าน ในขณะที่เทคโนโลยี AI เข้ามาทำหน้าที่ในการสร้างสรรสิ่งต่าง ๆ เทคโนโลยี บล็อกเชน ได้เข้ามาพัฒนาระบบการเงิน ทำให้ในขณะนี้ ผู้คนสามารถส่งเงินจำนวนน้อยไปยังต่างประเทศได้จากที่ไม่เคยทำได้ การที่เทคโนโลยี AI และบล็อกเชนสามารถทำงานส่งเสริมกันได้ จึงสามารถสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ได้มากทีเดียว

สำหรับ Bitkub ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการโอกาสผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เทคโนโลยีบล็อกเชนเท่านั้น และหนึ่งในเทคโนโลยีนั้นคือ AI ที่สามารถสร้างโอกาสให้แก่คนไทยได้ Bitkub จึงมีความตื่นเต้นกับเทคโนโลยีนี้มากทีเดียว

จากความรวดเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ คุณท็อปกล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีความได้เปรียบมากกว่าคนรุ่นเก่าเป็นอย่างมากเพราะไม่มีข้อผูกมัด เงื่อนไข และวิธีคิดแบบเดิม ทำให้เข้าใจแนวคิดใหม่ได้ดีกว่าคนรุ่นเก่า พร้อมแนะนำให้คนรุ่นใหม่เริ่มต้นกับธุรกิจใหม่ ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากเทคโนโลยีเก่า หรือทำงานกับบริษัทสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ซึ่งจะทำให้ได้รับโอกาสมากกว่า

เทคโนโลยี จึงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยคุณท็อปได้กล่าวว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นเครื่องทุนแรงให้แก่มนุษย์ เพียงแต่เทคโนโลยีนั้นจะส่งผลดีหรือผลเสีย ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์จะนำเทคโนโลยีนั้นไปใช้ในด้านใด พร้อมทั้งฝากว่า เทคโนโลยีในอีก 10 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนไปอย่างมาก จึงควรเปิดรับสิ่งใหม่และมีความกล้าที่จะสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศไทย