แม้ในเดือนมีนาคมนี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งความโกลาหลอย่างแท้จริงในภาคการเงิน ทว่าสิ่งต่าง ๆ ในตลาด Crypto ยังคงดูสดใส หลังจากที่ราคา Bitcoin สามารถปีนขึ้นไปแตะระดับ 28,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากเงินทุนวิ่งเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อมุ่งหน้าหาหลุมหลบภัยจากความไม่แน่นอนของระบบธนาคาร
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ก็ได้ทำให้ราคาเหรียญ Altcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงตามไปด้วย เนื่องจากนักเทรดเล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มผลกำไร ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะมาแนะนำ 8 เหรียญ Altcoin ที่น่าจับตามอง เพราะดูเหมือนว่าเมื่อฤดูกาลของ Altcoin ในปี 2023 จะมาเยือนแล้ว
Landshare (LAND)
Landshare (LAND) คือ หนึ่งในโปรเจกต์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้มากที่สุดใน Binance Smart Chain เนื่องจากโปรเจกต์นี้เป็นแพลตฟอร์มแรกสำหรับโทเค็น DeFi ของอสังหาริมทรัพย์บน BSC
ขณะนี้ Landshare เพิ่งเสร็จสิ้นการปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยการปรับปรุงใหม่นี้จะทำให้ผู้ถือเหรียญ LAND สามารถระดมทุนร่วมกันเป็นเวลานาน 3 เดือน เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการซื้อ การแปลง และการขายอสังหาริมทรัพย์ใน South Dakota ซึ่งจะให้ผลตอบแทนกว่า 40% แก่นักลงทุน
Fight Out (FGHT)
Fight Out (FGHT) เป็นโปรเจกต์ STEPN แบบ play-2-earn โดย STEPN เป็นเครื่องนับก้าวแบบมิติเดียวที่วัดได้เฉพาะการนับก้าว อีกทั้งระบบนิเวศยังมีราคาแพงเกินไป และบังคับให้ผู้เล่นทำธุรกรรม NFT จำนวนมากเพื่อปลดล็อกผลตอบแทนที่แท้จริง ทว่าโปรเจกต์ Fight Out นี้ ต้องการเป็น STEPN ขั้นสูง และต้องการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายในการนำผู้ใช้ไปสู่การเดินทางขั้นสูงสุด
Fight Out ตั้งเป้าที่จะประสบความสำเร็จด้วยการนำเสนอแอปพลิเคชันที่มีความซับซ้อนอย่างหลากหลาย ซึ่งจะเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถวัดและกระตุ้นการออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ ได้ ตั้งแต่การออกกำลังชกมวยไปจนถึงการยกน้ำหนักช่วงดึกที่โรงยิม
ทีมงาน Fight Out เพิ่งประกาศเปิดตัวโปรแกรม lucrative referral promo link ที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถได้รับค่าคอมมิชชัน 5% หากชวนเพื่อนมาเข้าร่วมโปรเจกต์นี้ โดยทุกครั้งที่ซื้อเหรียญ FGHT ก็จะได้รับเหรียญ USDT เพิ่มอีก 5% ของเหรียญ FGHT ที่ซื้อมา
Fetch Ai (FET)
Fetch Ai ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะอิทธิพลจากผลิตภัณฑ์ AI ใหม่เช่น ChatGPT และ Google BART ที่มาแรงในปีนี้ อีกทั้ง roadmap ที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็ได้เผยให้เห็นก้าวสำคัญสู่การเติบโตของระบบนิเวศที่วางแผนไว้สำหรับปี 2023 จนนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนในตลาด Crypto
roadmap นี้เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวโปรเจกต์ขนาดใหญ่ของ Fetch Ai ที่เพิ่งร่วมมือกับ Bosch หนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อเปิดตัว Fetch AI Foundation ดังนั้นโปรเจกต์ใหญ่นี้จึงอาจมีส่วนช่วยในการผลักดันราคาเหรียญ FET ก็เป็นได้
C+Charge (CCHG)
C+Charge ($CCHG) เป็น Crypto เหรียญใหม่ที่จะมาเขย่าวงการคาร์บอนเครดิตและสร้างจูงใจมหาศาลให้กับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลก โดยโปรเจกต์สตาร์ทอัพแห่งนี้่จะนำเสนอระบบการชำระเงิน Peer-2-Peer (P2P) สำหรับการชาร์จ EV โดยใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน อีกทั้งระบบนี้ยังสามารถทำให้ผู้ขับขี่ EV ได้รับคาร์บอนเครดิตเป็นรางวัลสำหรับการเติมพลังและผลกำไรจากการเติบโตของอุตสาหกรรม
การ presale เหรียญ CCHG ที่กำลังดำเนินการอยู่ จะทำให้นักลงทุนรายแรก ๆ มีโอกาสลงทุนกับโปรเจกต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ในราคาถูก พร้อมรับของแถมมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สำหรับนักลงทุนที่ซื้อเหรียญ CCHG ในราคา presale
Dash 2 Trade (D2T)
Dash 2 Trade จะเปิดตัวภายในสิ้นไตรมาสนี้ โดยเป็นแพลตฟอร์มข่าวการเทรดที่จะให้ข้อมูลการวิเคราะห์ตามเวลาจริงและข้อมูลการเทรดโนโลกโซเชียล ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีทรัพยากรและเครื่องมือทั้งหมดที่พวกเขาอาจจำเป็นเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของตนเอง
ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อทำการวิเคราะห์อารมณ์สังคมและตลาดในระดับสูง D2T สามารถช่วยให้นักเทรดสามารถจับชีพจรของตลาดโลกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นโปรเจกต์นี้จึงได้รับความนิยมอย่างมากแม้จะยังไม่เปิดตัว จนถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปีนี้
Conflux (CFX)
Conflux Network หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘บล็อกเชนสาธารณะแห่งเดียวของจีน’ มีวอลลุ่มเทรดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากนักลงทุนต่างแย่งชิงตำแหน่งในอุตสาหกรรม Crypto ในเอเชียที่กำลังเติบโต
ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวว่าปักกิ่งดูเหมือนจะสนับสนุน Crypto ในฮ่องกง จนทำให้ราคาเหรียญ CFX พุ่งสูงขึ้น 130% และถ้าหากจีนยังคงมีแนวโน้มเพิ่มการสนับสนุนต่อไป เหรียญ CFX ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าจับตามองเช่นกัน
RobotEra (TARO)
RobotEra เป็นโปรเจ็กต์ GameFi ที่ให้ผู้เล่นออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ของตนเองได้ โดยโปรเจ็กต์นี้จะพาผู้เล่นไปต่อสู้ในเกมพร้อมมอบประสบการณ์ความท้าทายอย่างหลากหลาย เช่น การแข่งขัน การต่อสู้ และเกมกลยุทธ์ ซึ่งผู้เล่นสามารถทดสอบหุ่นยนต์ของตนได้
แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้เล่นได้รับรางวัลในรูปแบบของเหรียญ TARO ซึ่งเป็นเหรียญสำหรับใช้ในการซื้อขายสินทรัพย์เสมือนจริง การชำระค่าธรรมเนียม รวมไปถึงการถูกใช้เป็นรางวัลของแพลตฟอร์ม
ขณะนี้เหรียญ TARO อยู่ระหว่างการ presale ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจทำกำไรจากการซื้อในราคาถูกก่อนที่จะเปิดให้ซื้อขายแบบสาธารณะ
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ที่มา: business2community